วันเสาร์, 9 ธันวาคม 2566
✅ สามารถส่งข่าวแจก บทความประชาสัมพันธ์ ได้ที่อีเมล์ [email protected] ฟรี !
🎬ติดต่องานรีวิว Line : iNewch

เปิดตัว Huawei P40, P40 Pro และ P40 Pro+ มือถือซีรีส์สุดเทพ

HUAWEI P40 Series เพิ่งจะมีการเปิดตัวไปเมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2563 เวลา 20.00 น. หลายคนก็ลุ้นกันอยู่ว่า สุดท้ายแล้วมือถือตระกูลนี้จะมีรายละเอียดเป็นอย่างไร โดยทาง Huawei ได้มีการเปิดตัวมือถือทั้งหมด 3 รุ่น ได้แก่ Huawei P40, P40 Pro และรุ่นท็อป P40 Pro+

หน้าจอ
Huawei P40 Pro และ Pro+ มีการใช้หน้าจอเป็นแบบ Quad-Curve Overflow Display ซึ่งเป็นขอบโค้งทั้ง 4 ด้าน ดูสวยแปลกตาและยังมีขอบจอที่บางเฉียบ

ดีไซน์
Huawei P40 Pro และ Pro+ มาพร้อมกับดีไซน์แบบพรีเมี่ยมเนื่องจากฝาหลังมีการใช้วัสดุ Nano-Tech Ceramic ที่ทนต่อแรงขีดข่วนได้ดีและมีความทนทานสูง

Huawei P40 Series มีให้เลือก 5 สี ได้แก่ Black, Deep Sea Blue, Ice White, Silver Frost และ Blush Gold

กล้องหลัง

  • Huawei P40 มีกล้องหลังทั้งหมด 3 ตัว ประกอบไปด้วย
    • กล้องหลัก Ultra Vision Wide 50MP (f/1.9)
    • กล้อง Telephoto 3x Optical 8MP (f/2.4), OIS
    • กล้อง Ultra Wide 16MP (f/2.2) และเซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิสี
  • Huawei P40 Pro มีกล้องหลังทั้งหมด 4 ตัว ประกอบไปด้วย
    • กล้อง Ultra Vision Wide 50MP (f/1.9), OIS
    • กล้อง Ultra Wide Cine 40MP (f/1.8)
    • กล้องซูม Optical 5x 12MP (f/3.4), OIS
    • กล้อง 3 มิติ ToF และเซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิสี
  • Huawei P40 Pro+ มีกล้องหลังทั้งหมด 4 ตัว ประกอบไปด้วย
    • กล้อง Ultra Vision Wide 50MP (f/1.9), OIS
    • กล้อง Ultra Wide Cine 40MP (f/1.8)
    • กล้องซูม Optical 3x 8MP (f/2.4), OIS
    • กล้องซูม Optical 10x 8MP เลนส์ Periscope (f/4.4), OIS
    • กล้อง 3 มิติ ToF และเซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิสี
  • ฟีเจอร์การถ่ายรูป Golden Snap
    • AI Scene Recognition คำนวณการเคลื่อนไหวและเลือกภาพในช็อตที่สวยงามที่สุด
    • AI Remove Passersby ลบบุคคลที่ไม่ต้องการออกจากภาพได้เนียนกริบ
    • AI Remove Reflection ลบการสะท้อนของวัตถุต่างๆเพื่อให้ได้ภาพที่ชัดเจน

นอกจากนี้ยังมีระบบปฏิบัติการ EMUI 10.1หรือก็คือฟีเจอร์ Multi Window ที่ทำให้เปิดได้ 2 แอปพร้อมกันในหน้าจอเดียว

กล้องถ่ายวิดีโอ
Huawei P40 Pro และ P40 Pro+ สามารถถ่ายวิดีโอระดับ 4K ได้แบบชัดเจนแม้จะมีแสงน้อยก็ตาม นอกจากนี้ยังสามารถถ่ายวิดีโอจากกล้องพร้อมกัน 2 ตัวด้วยโหมด Dual-View Video ทำให้เราสามารถบันทึกวิดีโอด้วยกล้อง Ultra wide พร้อมกับกล้อง Telephoto โดยไม่ต้องกดเปลี่ยนระยะ

กล้องหน้า
Huawei P40 Pro+ มากับกล้องหน้า 2 ตัว กล้องหลัก 32MP (f/2.2) AF Camera และ กล้อง IR Depth / Gesture Sensor ถ่ายเซลฟี่แบบหน้าชัดหลังเบลอหรือจะถ่ายวิดีโอเซลฟี่ด้วยความคมชัดระดับ 4K ก็ยังได้

แบตเตอรี่และระบบชาร์จ
Huawei P40 Pro+ มากับแบตเตอรี่ขนาด 4200 mAh และยังรองรับระบบชาร์จไวแบบมีสายที่ 40W

HUAWEI P40 รุ่นความจุ 8GB / 128GB ราคา 799 ยูโร หรือประมาณ 28,600 บาท
หน้าจอ : Punch Hole ไม่โค้ง 6.1 นิ้ว ความละเอียด 2340 x 1080 พิกเซล
ชิปประมวลผล : Kirin 990 5G
RAM : 8GB
ROM : 128GB เพิ่ม NM Card ได้
กล้องหลัง 3 เลนส์
– กล้องหลัก Ultra Vision Wide 50MP (f/1.9)
– กล้อง Telephoto 3x Optical 8MP (f/2.4), OIS
– กล้อง Ultra Wide 16MP (f/2.2) และเซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิสี
กล้องหน้า 2 เลนส์ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล + Depth
แบตเตอรี่ : 3800mAh รองรับ Fast Charge 22.5W

HUAWEI P40 Pro รุ่นความจุ 8GB / 256GB ราคา 999 ยูโร หรือประมาณ 35,700 บาท
หน้าจอ : Punch Hole แบบโค้ง 6.58 นิ้ว ความละเอียด2640 x 1080 พิกเซล
ชิปประมวลผล : Kirin 990 5G
RAM : 8GB
ROM : 128/256GB เพิ่ม NM Card ได้
กล้องหลัง 4 เลนส์
– กล้อง Ultra Vision Wide 50MP (f/1.9), OIS
– กล้อง Ultra Wide Cine 40MP (f/1.8)
– กล้องซูม Optical 5x 12MP (f/3.4), OIS
– กล้อง 3 มิติ ToF และเซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิสี
กล้องหน้า 2 เลนส์ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล + ToF + เซ็นเซอร์อินฟราเรด (Face Unlock)
แบตเตอรี่ : 4200mAh รองรับ Fast Charge 40W และ Wireless Charge 27W

HUAWEI P40 Pro+ ราคา 1399 ยูโร หรือประมาณ 50,000 บาท
หน้าจอ : Punch Hole แบบโค้ง 6.7 นิ้ว ความละเอียด 3160 x 1440 พิกเซล
ชิปประมวลผล : Kirin 990 5G
RAM : 12GB
ROM : 512GB
กล้องหลัง 5 เลนส์
– กล้อง Ultra Vision Wide 50MP (f/1.9), OIS
– กล้อง Ultra Wide Cine 40MP (f/1.8)
– กล้องซูม Optical 3x 8MP (f/2.4), OIS
– กล้องซูม Optical 10x 8MP เลนส์ Periscope (f/4.4), OIS
– กล้อง 3 มิติ ToF และเซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิสี
กล้องหน้า 2 เลนส์ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล + ToF + เซ็นเซอร์อินฟราเรด (Face Unlock)
แบตเตอรี่ : 5500mAh รองรับ Fast Charge 55W และ Wireless Charge 27W