realme แบรนด์สมาร์ตโฟนเพื่อคนรุ่นใหม่ ประกาศความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับ RICOH IMAGING COMPANY LTD. อย่างเป็นทางการ พร้อมเปิดตัว realme GT 8 Pro สมาร์ตโฟนรุ่นแรกที่มาพร้อมเทคโนโลยีกล้อง RICOH GR ซึ่งเกิดจากการพัฒนาร่วมกันนานกว่า 4 ปี เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับการถ่ายภาพบนสมาร์ตโฟนเทียบเท่ากล้องระดับโปร

การร่วมมือครั้งนี้ได้ผสานเทคโนโลยีสมาร์ตโฟนอันล้ำสมัยของ realme เข้ากับจิตวิญญาณของกล้องตระกูล GR จาก RICOH ที่เป็นตำนานแห่งการถ่ายภาพแนวสตรีท ทำให้ realme GT 8 Pro กลายเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังสำหรับคนรุ่นใหม่ที่ต้องการบันทึกเรื่องราวในชีวิตประจำวันอย่างสร้างสรรค์และเปี่ยมด้วยสไตล์ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Snap by No Rules” ที่ทลายทุกข้อจำกัดเดิมๆ ของการถ่ายภาพ

Chase Xu รองประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดของ realme กล่าวว่า "ความร่วมมือกับ RICOH GR คือก้าวสำคัญที่จะเปลี่ยนโฉมวงการถ่ายภาพบนสมาร์ตโฟน realme GT 8 Pro ไม่เพียงสืบทอดมรดกของกล้อง GR แต่ยังสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับการบันทึกและแบ่งปันประสบการณ์ในยุคดิจิทัล"

Kazunobu Saiki ผู้จัดการทั่วไปแผนกธุรกิจกล้อง บริษัท RICOH IMAGING เสริมว่า "เราได้นำความเชี่ยวชาญของ GR ที่สั่งสมมาหลายทศวรรษมาสู่ realme GT 8 Pro ความร่วมมือนี้ไม่เพียงสร้างนวัตกรรม แต่ยังเป็นการปลุกพลังวัฒนธรรมการถ่ายภาพแนวสตรีทให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง"

ฟีเจอร์เด่นใน realme GT 8 Pro:

• เลนส์ Ultra-High Transparency: พัฒนาร่วมกับ RICOH ให้ความคมชัดสูงสุด ลดแสงแฟลร์และความบิดเบือนของภาพได้อย่างเหนือชั้น
• โหมด RICOH GR: มอบประสบการณ์เสมือนใช้กล้อง GR จริง ด้วยอินเทอร์เฟซ, เสียงชัตเตอร์อันเป็นเอกลักษณ์ และ Snap Mode ที่ให้คุณตั้งค่าโฟกัสล่วงหน้าเพื่อกดถ่ายได้ทันทีโดยไม่ต้องรอ
• ทางยาวโฟกัสคลาสสิก: เลือกใช้ระหว่างระยะ 28 มม. สำหรับภาพมุมกว้างสไตล์สตรีท และ 40 มม. เพื่อจับอารมณ์ของตัวแบบ
• โทนภาพต้นฉบับ GR: มาพร้อมโทนสีคลาสสิก 5 แบบ เช่น Positive Film, High-Contrast B&W และยังสามารถปรับแต่งโทนสี (Customized Tone) ได้อย่างอิสระ
• คอมมูนิตี้ GR: แชร์สูตรโทนสี (Tone Recipe Sharing), ใช้อัลบั้มและลายน้ำสไตล์ GR เพื่อเชื่อมต่อกับคอมมูนิตี้คนรักการถ่ายภาพ

realme GT 8 Pro เตรียมเปิดตัวทั่วโลกเร็วๆ นี้ เพื่อมอบประสบการณ์การถ่ายภาพสตรีทอันเป็นเอกลักษณ์สู่มือผู้ใช้ทุกคน

เอซุส ประเทศไทย จัดงานใหญ่ “ASUS Expert Series Grand Launch” ณ โรงแรมแกรนด์เซ็นเตอร์พอยต์ ลุมพินี เปิดตัวทัพผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์เกรดธุรกิจ Expert Series รุ่นใหม่ล่าสุดอย่างเป็นทางการ ชูธงนำเสนอโซลูชันที่ครอบคลุมทุกความต้องการ ตั้งแต่กลุ่มโปรซูเมอร์ (Prosumer) ผู้ประกอบการธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง (SMB) ไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่ มุ่งมั่นส่งมอบเทคโนโลยีที่เปี่ยมด้วยเสถียรภาพ ความปลอดภัย และความทนทานขั้นสูงสุด

ภายในงานได้มีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ไฮไลต์หลากหลายรุ่น ไม่ว่าจะเป็นแล็ปท็อปสำหรับองค์กรอย่าง ASUS ExpertBook P1, P3, B5 และเดสก์ท็อปพีซีประสิทธิภาพสูง ASUS ExpertCenter P500SV, PM700SK รวมถึงคอมพิวเตอร์ออลอินวันดีไซน์ทันสมัย ASUS ExpertCenter P400VA สะท้อนความมุ่งมั่นของเอซุสในการเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญสำหรับธุรกิจทุกระดับในประเทศไทย

ยืนหนึ่งเรื่องความทนทานและความปลอดภัย มาตรฐานระดับกองทัพ

หัวใจสำคัญของผลิตภัณฑ์ในตระกูล ASUS Expert Series คือความน่าเชื่อถือที่ผ่านการพิสูจน์แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มผลิตภัณฑ์โน้ตบุ๊ก ASUS ExpertBook ที่โดดเด่นด้วยความแข็งแกร่งทนทาน ผ่านการทดสอบมาตรฐานทางการทหารของสหรัฐอเมริกา MIL-STD 810H ที่ครอบคลุมมากกว่า 24 ขั้นตอนสุดโหด ไม่ว่าจะเป็นการทดสอบการทำงานในอุณหภูมิสุดขั้ว การทนต่อแรงสั่นสะเทือน หรือการตกกระแทก

ยิ่งไปกว่านั้น เอซุสยังได้ยกระดับมาตรฐานความทนทานขึ้นไปอีกขั้นด้วย ASUS Superior Durability Test ซึ่งเป็นการทดสอบภายในที่เข้มงวดยิ่งกว่ามาตรฐานทั่วไปถึง 8 ขั้นตอน เพื่อให้มั่นใจได้ว่าอุปกรณ์ทุกชิ้นจะสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพในทุกสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ พร้อมปกป้องข้อมูลสำคัญขององค์กรด้วยระบบความปลอดภัยขั้นสูงที่ติดตั้งมาในตัวเครื่อง

สัมผัสประสบการณ์จริงกับ “Expert Challenge”

เพื่อให้ผู้เข้าร่วมงานได้สัมผัสถึงความแข็งแกร่งและประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์อย่างใกล้ชิด เอซุสได้จัดโซนกิจกรรมอินเทอร์แอกทีฟ “Expert Challenge” ขึ้นเป็นพิเศษ ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้ร่วมงานได้ทดลองและทำความรู้จักกับมาตรฐานความทนทาน ASUS Superior Durability Test ด้วยตนเอง พร้อมทั้งได้ทดลองใช้งานผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม ASUS Expert Series ในสถานการณ์จำลองการทำงานจริง เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนถึงความคล่องตัวและประสิทธิภาพที่ตอบโจทย์การใช้งานระดับมืออาชีพ

ไฮไลต์ผลิตภัณฑ์ใหม่ในตระกูล ASUS Expert Series

• ASUS ExpertBook P1 (P1503CVA): แล็ปท็อปสุดคุ้มค่าสำหรับธุรกิจยุคใหม่ ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ธุรกิจขนาดเล็กและกลุ่มโปรซูเมอร์โดยเฉพาะ ExpertBook P1 มอบประสิทธิภาพที่เชื่อถือได้ พร้อมฟีเจอร์พื้นฐานที่จำเป็นต่อการทำงานครบครันในตัวเครื่องที่กะทัดรัด แข็งแรงทนทาน และมาในราคาที่เข้าถึงง่าย เริ่มต้นเพียง 14,990 บาท
• ASUS ExpertBook P3 (PM3606CKA): ความคล่องตัวและปลอดภัยสำหรับ Prosumer และ SMB โน้ตบุ๊กที่เน้นความหลากหลายในการใช้งาน มาพร้อมความคล่องตัวสูง ความปลอดภัยที่ครบครัน และเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในโลกยุคใหม่ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการอุปกรณ์ที่ยืดหยุ่นและตอบสนองไลฟ์สไตล์การทำงานที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เริ่มต้นเพียง 25,990 บาท
• ASUS ExpertBook B5 (B5405CCA): ขุมพลังและความปลอดภัยระดับองค์กรขนาดใหญ่ สุดยอดโน้ตบุ๊กสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ที่ต้องการประสิทธิภาพขั้นสูงสุด มาพร้อมฟีเจอร์ความปลอดภัยระดับสูง สามารถปรับแต่งสเปกได้ตามความต้องการขององค์กร และรองรับการใช้งานในปริมาณมากได้อย่างไร้กังวล ราคา 58,990 บาท
• ASUS ExpertCenter Desktop Series (P500SV, PM700SK): เดสก์ท็อปพีซีที่ทรงพลังและยืดหยุ่น คอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปตั้งโต๊ะสำหรับองค์กรที่มอบประสิทธิภาพสูงสำหรับการทำงานที่ต้องการการประมวลผลหนักๆ มีระบบความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง และออกแบบมาเพื่อให้สามารถอัปเกรดส่วนประกอบต่างๆ ได้อย่างยืดหยุ่นในอนาคต เริ่มต้นเพียง 15,990 บาท
• ASUS ExpertCenter All-in-One (P400VA): ประสิทธิภาพสูงในดีไซน์ที่ลงตัว โซลูชันคอมพิวเตอร์แบบ All-in-One ที่ผสมผสานดีไซน์อันสวยงามเข้ากับประสิทธิภาพการทำงานระดับสูงได้อย่างลงตัว ช่วยประหยัดพื้นที่บนโต๊ะทำงานโดยไม่ลดทอนประสิทธิภาพการใช้งานแม้แต่น้อย เหมาะสำหรับออฟฟิศสมัยใหม่ที่ต้องการความเรียบง่ายและดูเป็นมืออาชีพ เริ่มต้นเพียง 31,990 บาท

คุณชาร์ลส หลิว ผู้อำนวยการแผนกธุรกิจเชิงพาณิชย์ เอซุส ประเทศไทย ได้กล่าวถึงวิสัยทัศน์ในงานเปิดตัวครั้งนี้ว่า “เอซุสเชื่อมั่นในการส่งมอบเทคโนโลยีที่สามารถตอบสนองและก้าวข้ามความคาดหวังของธุรกิจได้อย่างแท้จริง ASUS Expert Series คือเครื่องยืนยันถึงความตั้งใจของเราในการสนับสนุนธุรกิจทุกระดับ ด้วยโซลูชันที่เชื่อถือได้ ปรับแต่งได้ และมีความทนทานสูง”

เป็นเจ้าของและดูข้อมูลเพิ่มเติม

สำหรับองค์กรและผู้ที่สนใจ สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและค้นหาจุดวางจำหน่ายสินค้าได้ที่:

• จุดวางจำหน่ายสินค้า: https://www.asus.com/TH/Static_WebPage/where-to-buy-commercial/
• ติดตาม ASUS Business LINE Official Account: https://lin.ee/cbom8AM

ดรีมมี เทคโนโลยี (DREAME Technology) แบรนด์นวัตกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าชั้นนำระดับโลก ได้ตอกย้ำวิสัยทัศน์ดังกล่าว ด้วยการจัดงานแสดงผลิตภัณฑ์สุดยิ่งใหญ่ “DREAME HOME: DREAM FOR ALL บ้านในฝัน เริ่มต้นที่ดรีมมี” เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2568 ณ SPHERE GALLERY 1 ชั้น M ศูนย์การค้า EMSPHERE บรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยความตื่นตาตื่นใจ กับการเปิดตัวกองทัพเครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะ ที่พร้อมจะเปลี่ยนนิยามของงานบ้านให้กลายเป็นเรื่องง่ายดายและชาญฉลาดกว่าที่เคย

งานนี้ไม่เพียงเป็นการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ แต่ยังเป็นการประกาศก้าวสำคัญของดรีมมีในการรุกตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างเต็มตัว พร้อมเปิดตัวภาพลักษณ์แบรนด์ใหม่ในประเทศไทยภายใต้ชื่อ DREAME HOME เพื่อสร้างระบบนิเวศของผลิตภัณฑ์ (Ecosystem) ที่ครอบคลุมทุกความต้องการในบ้านอย่างแท้จริง

ที่สุดแห่งนวัตกรรมทำความสะอาด: 2 ไฮไลต์เด็ดที่ต้องจับตา

ภายในงาน ดรีมมีได้เผยโฉมเทคโนโลยีทำความสะอาดแห่งอนาคต ผ่านสองผลิตภัณฑ์ไฮไลต์ที่เรียกเสียงฮือฮาจากผู้เข้าร่วมงานได้อย่างล้นหลาม

1. Dreame AQUA 10 PRO TRACK: หุ่นยนต์ดูดฝุ่นถูพื้นที่สะอาดที่สุดเท่าที่เคยมีมา ลืมภาพหุ่นยนต์ทำความสะอาดแบบเดิมๆ ไปได้เลย เพราะนี่คือผลลัพธ์ของวิศวกรรมขั้นสูงที่ดรีมมีภาคภูมิใจ นำเสนอเทคโนโลยีสุดล้ำ TrackSync™ ระบบสายพานถูพื้นอัจฉริยะที่สามารถปล่อยน้ำร้อนอุณหภูมิ 45 องศาเซลเซียส เพื่อสลายคราบมันและสิ่งสกปรกฝังแน่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมระบบ Self-Cleaning ทำความสะอาดตัวเองตลอดเวลาการทำงาน หมดกังวลเรื่องการลากคราบสกปรกไปทั่วบ้าน ผสานกับพลังดูด Vormax™ ที่ทรงพลังสูงสุดถึง 25,000 Pa ทำให้สามารถเก็บได้ตั้งแต่ฝุ่นผงขนาดเล็กไปจนถึงเศษขยะชิ้นใหญ่ และเมื่อกลับถึงแท่นชาร์จ เทคโนโลยี Thermohub™ จะทำความสะอาดและอบแห้งผ้าม็อบด้วยน้ำร้อนอุณหภูมิสูงถึง 100 องศาเซลเซียส เพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรียและขจัดกลิ่นอับอย่างหมดจด
2. Dreame H15 Pro FoamWash: เครื่องดูดฝุ่นถูพื้นที่จัดการคราบหนักได้อย่างเหนือชั้น สำหรับบ้านที่ต้องการการทำความสะอาดเฉพาะจุดขั้นสุดยอด Dreame H15 Pro FoamWash คือคำตอบ ด้วยนวัตกรรมการปล่อยโฟมทำความสะอาดแบบมูสเนื้อแน่น ที่สามารถกำหนดเป้าหมายไปยังคราบสกปรกได้อย่างแม่นยำ ไม่ว่าจะเป็นคราบอาหาร คราบกาแฟ หรือคราบจากสัตว์เลี้ยง โฟมจะเข้าสลายคราบฝังลึกให้หลุดออกอย่างง่ายดาย มาพร้อมแรงดูดทรงพลัง 23,000 Pa และแขนกลอัจฉริยะ AI GapFree 2.0 ที่ช่วยให้การทำความสะอาดเข้าถึงทุกซอกทุกมุม ไม่ว่าจะเป็นขอบกำแพงหรือใต้เฟอร์นิเจอร์ได้อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

เติมเต็ม Ecosystem ของบ้านอัจฉริยะให้สมบูรณ์แบบ

นอกจากผลิตภัณฑ์ไฮไลต์ ดรีมมี ยังได้นำเสนอไลน์อัพผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่จะเข้ามาเติมเต็มไลฟ์สไตล์ของทุกคนในครอบครัว:

• เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Z30S Station: มาพร้อมแท่นทิ้งฝุ่นอัตโนมัติ และนวัตกรรมไฟสีเขียวช่วยตรวจจับฝุ่นที่มองไม่เห็น ทำให้การทำความสะอาดเป็นเรื่องง่ายและสนุกยิ่งขึ้น
• ไดร์เป่าผม Pocket Uni: ไอเท็มคู่ใจของสายบิวตี้ที่รักการเดินทาง ด้วยดีไซน์พับได้กะทัดรัด และเทคโนโลยี Wide Voltage ที่ใช้ได้ทั่วโลกโดยไม่ต้องพึ่งตัวแปลงไฟ เป็นเจ้าแรกที่ดรีมมีคิดค้นขึ้น
• เครื่องฟอกอากาศ PM10: ปกป้องทุกคนในครอบครัวจากมลภาวะด้วยประสิทธิภาพการกรองขั้นสูง พร้อมดีไซน์เรียบหรูที่ลงตัวกับทุกการตกแต่ง
• เครื่องล้างจาน DZ60pro: ตอบโจทย์ครอบครัวใหญ่ ด้วยความสามารถในการล้างจานได้สูงสุดถึง 15 ชุด ช่วยประหยัดทั้งแรงและเวลา พร้อมดีไซน์ทันสมัยที่ช่วยยกระดับห้องครัวของคุณ

วิสัยทัศน์และก้าวต่อไปของ DREAME ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

นายเมิ่ง เจีย ผู้อำนวยการฝ่ายหุ่นยนต์ดูดฝุ่น บริษัท ดรีมมี เทคโนโลยี ได้กล่าวถึงวิสัยทัศน์ของแบรนด์ว่า "ดรีมมีมุ่งมั่นที่จะส่งมอบนวัตกรรมที่แก้ปัญหาในชีวิตประจำวันของผู้บริโภคได้อย่างแท้จริง การเข้าสู่ตลาดไทยครั้งนี้เป็นก้าวที่สำคัญอย่างยิ่ง เราเห็นศักยภาพของตลาดที่ผู้บริโภคเปิดรับเทคโนโลยีเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต และเราพร้อมที่จะส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดเพื่อตอบสนองความต้องการนั้น"

นายเมิ่งยังได้เผยถึงอนาคตของการทำความสะอาดว่า "เราเชื่อว่าอนาคตคือระบบอัจฉริยะที่จะลดภาระงานบ้านให้เหลือน้อยที่สุด เพื่อให้ผู้คนมีเวลาไปทำในสิ่งที่รักมากขึ้น ด้วยเหตุนี้ เราจึงไม่หยุดพัฒนานวัตกรรม ดังเช่นหุ่นยนต์ดูดฝุ่นรุ่นล่าสุด Matrix10 Ultra ที่มาพร้อมเทคโนโลยี Multi-Mop Switching Dock ครั้งแรกของโลก ซึ่งสามารถเปลี่ยนผ้าม็อบอัตโนมัติได้ถึง 3 แบบ เพื่อให้เหมาะกับแต่ละโซนการใช้งานที่แตกต่างกัน"

บรรยากาศสุดพิเศษกับทัพเซเลบริตี้ชื่อดัง

ภายในงานยังได้เพิ่มดีกรีความร้อนแรงด้วยการปรากฏตัวของเหล่าเซเลบริตี้ชื่อดัง นำโดยนักแสดงสุดฮอต วิน-เมธวิน โอภาสเอี่ยมขจร ที่มาร่วมแบ่งปันประสบการณ์และมุมมองเกี่ยวกับบ้านในฝันแบบ Smart Home พร้อมด้วย ฟ้าใส-ปวีณสุดา ดรูอิ้น Miss Universe Thailand 2019, แคร์-ฉัตรฑริกา สิทธิพรม และคู่จิ้นสุดฮอต โอม-สาริศ ทินราช และ เฟริสท์-ฉลองรัฐ นอบสำโรง ที่มาร่วมสร้างสีสันและสัมผัสเทคโนโลยีจากดรีมมีอย่างใกล้ชิด

การจัดงานในครั้งนี้ถือเป็นการประกาศความพร้อมของ DREAME Technology ที่จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของคนไทย ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มีแค่ความล้ำสมัย แต่ยังเข้าใจถึงความต้องการของผู้ใช้งานอย่างลึกซึ้ง พร้อมแล้วที่จะทำให้ "บ้านในฝัน" ของทุกคนเป็นความจริงขึ้นมาได้

สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถสัมผัสและเป็นเจ้าของนวัตกรรมจากดรีมมีได้แล้ววันนี้ ผ่านช่องทางออนไลน์บนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซชั้นนำ ทั้ง Shopee, Lazada, TikTok และช่องทางออฟไลน์ ณ ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ อาทิ Central, CPW, Harvey Norman และ Courts รวมถึงเว็บไซต์อย่างเป็นทางการและร้านค้าของดรีมมีทั่วประเทศ

คุณมีเครื่องพิมพ์เก่าที่บ้านหรือที่ออฟฟิศที่กำลังจะกลายเป็นซากหรือไม่? ไม่ว่าจะเป็นเครื่องพิมพ์ที่เสียแล้ว พิมพ์ช้า หมึกแพง หรือเป็นรุ่นเก่าที่ตกรุ่นไปแล้ว อย่าเพิ่งทิ้งให้กลายเป็นขยะอิเล็กทรอนิกส์! Brother (บราเดอร์) ผู้นำด้านเทคโนโลยีการพิมพ์และโซลูชันครบวงจรจากประเทศญี่ปุ่น ขอเสนอทางออกที่ดีที่สุดและคุ้มค่าที่สุดแห่งปีกับแคมเปญ Trade-In สุดยิ่งใหญ่ “ทิ้งไว้ทำซาก – เทมาเลยพี่รับเอง ทุกรุ่นทุกยี่ห้อ”

แคมเปญนี้เปิดโอกาสให้ทุกคนได้อัปเกรดเครื่องพิมพ์เครื่องเก่าให้เป็นเครื่องใหม่ล่าสุดจาก Brother หรือคืนชีวิตให้ซากเครื่องพิมพ์ที่ไม่ได้ใช้งานแล้ว ให้กลับมามีมูลค่าอีกครั้ง พร้อมรับส่วนลดแบบจุใจเพื่อเป็นเจ้าของเทคโนโลยีการพิมพ์ที่เหนือกว่า

เงื่อนไขง่ายๆ ใครก็แลกได้

Brother เปิดกว้างให้ทุกคนเข้าร่วมแคมเปญนี้ได้ง่ายๆ เพียงแค่นำเครื่องพิมพ์เก่า ขนาด A4 ขึ้นไป ไม่ว่าจะเป็นยี่ห้อใด รุ่นใดก็ตาม จะเป็นเครื่องพิมพ์เลเซอร์, อิงค์เจ็ท, อิงค์แท็งค์, มัลติฟังก์ชัน หรือแม้แต่เครื่องพิมพ์ดอตเมทริกซ์ (Dot Matrix) ที่ไม่ใช้งานแล้ว (ไม่ว่าเครื่องจะอยู่ในสภาพดีหรือเสียก็ตาม) มาที่ร้านตัวแทนจำหน่าย Brother ที่ร่วมรายการ เพื่อใช้เป็นส่วนลดแลกซื้อเครื่องพิมพ์ Brother รุ่นใหม่ที่ร่วมรายการได้ทันที

เลือกเครื่องพิมพ์ Brother รุ่นใหม่ที่ใช่ พร้อมรับส่วนลดสุดคุ้ม

ในแคมเปญนี้ Brother ได้คัดสรรเครื่องพิมพ์รุ่นยอดนิยมที่ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน ตั้งแต่การใช้งานในบ้านไปจนถึงสำนักงานขนาดเล็กและขนาดกลาง มาพร้อมกับส่วนลดสุดพิเศษดังนี้:

ส่งออกไปยังชีต

เครื่องพิมพ์ทุกรุ่นมาพร้อมกับหมึกแท้จาก Brother ที่การันตีคุณภาพงานพิมพ์ที่คมชัด สีสันสดใส และประสิทธิภาพการทำงานที่วางใจได้ในทุกแผ่น

ความคุ้มค่าที่มากกว่า: การรับประกันและของสมนาคุณสุดพิเศษ

นอกเหนือจากส่วนลดสุดคุ้มแล้ว Brother ยังมอบความอุ่นใจให้กับการใช้งานที่ยาวนานยิ่งขึ้น

• การรับประกันมาตรฐานสูงสุด 2 ปี
• พิเศษ! ขยายระยะเวลารับประกันเพิ่มเป็น 3 ปี สำหรับเครื่องพิมพ์อิงค์แท็งค์ 4 รุ่นยอดนิยม (DCP-T230, DCP-T430W, DCP-T530DW และ DCP-T830DW) เพียงลงทะเบียนการรับประกันผ่านช่องทางออนไลน์ ภายในวันที่ 30 กันยายน 2568
• รับฟรี! กระเป๋ารักษ์โลกจาก Brother มูลค่า 690 บาท สำหรับลูกค้าทุกท่านที่เข้าร่วมแคมเปญนี้

อย่าปล่อยให้โอกาสดีๆ แบบนี้หลุดมือไป! แคมเปญ “ทิ้งไว้ทำซาก – เทมาเลยพี่รับเอง” จัดขึ้นระหว่างวันที่ 1 กันยายน – 31 ตุลาคม 2568 เท่านั้น

สามารถนำเครื่องพิมพ์เก่ามาแลกรับส่วนลดได้ที่ ร้านตัวแทนจำหน่าย Brother ที่ร่วมรายการทั่วประเทศ (เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด และโปรโมชันนี้ ไม่สามารถใช้กับการซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ได้)

ผู้ที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับแคมเปญและค้นหาร้านค้าที่ร่วมรายการได้ที่: www.brother.co.th/th-th/contents/trade-in-campaign

หัวเว่ย คอนซูมเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป (ประเทศไทย) พร้อมทลายข้อจำกัดเหล่านั้นด้วยการเปิดตัว HUAWEI MatePad 11.5” 2025 แท็บเล็ตเจเนอเรชันใหม่ที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาเพื่อเป็นคำตอบสำหรับทุกคน ไม่ว่าคุณจะเป็นนักเรียน นักศึกษา หรือคนทำงานที่ต้องการอุปกรณ์ที่ทรงพลัง ครบครัน และพร้อมไปกับคุณในทุกสถานการณ์

ดีไซน์ที่ผสมผสานความงามและความแกร่งอย่างลงตัว

สัมผัสแรกที่ได้จับ HUAWEI MatePad 11.5” 2025 คือความรู้สึกพรีเมียมจากวัสดุโลหะแบบ Unibody ที่ให้ความแข็งแรงทนทานทั่วทั้งตัวเครื่อง ซึ่งในรุ่นนี้ได้รับการพัฒนาให้แข็งแกร่งกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 30% แม้จะมาพร้อมกับความบางเฉียบเพียง 6.1 มิลลิเมตร และน้ำหนักเบาหวิวแค่ 515 กรัม ทำให้การพกพาไปไหนมาไหนสะดวกสบาย ไม่เป็นภาระ ไม่ว่าจะใส่ในกระเป๋าเป้หรือกระเป๋าถือ

หัวเว่ยใส่ใจในทุกรายละเอียดการออกแบบ พื้นผิวของตัวเครื่องผ่านกระบวนการเคลือบพิเศษที่ให้ลุคเรียบหรูดูดี ทั้งยังช่วยป้องกันรอยขีดข่วนและลดการเกิดรอยนิ้วมือ ทำให้แท็บเล็ตของคุณยังคงความเนี้ยบสวยงามได้ตลอดทั้งวัน มีให้เลือก 2 สีสุดคลาสสิก ได้แก่ สีเทา Space Gray และสีม่วง ที่สะท้อนตัวตนของผู้ใช้งานได้อย่างสมบูรณ์แบบ

ขุมพลังที่ไม่มีวันหมด: แบตเตอรี่สุดอึดและประสิทธิภาพที่เหนือกว่า

หัวใจสำคัญของอุปกรณ์พกพาคือแบตเตอรี่ และ HUAWEI MatePad 11.5” 2025 ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ด้วยการอัปเกรดแบตเตอรี่ให้มีความจุสูงถึง 10,100 mAh ซึ่งเพิ่มขึ้นจากรุ่นก่อนถึง 30% แปลว่าคุณสามารถใช้งานอุปกรณ์ได้ยาวนานตลอดวันโดยไม่ต้องกังวล ไม่ว่าจะเรียนมาราธอนตั้งแต่เช้าจรดค่ำ, ทำงานนอกสถานที่ทั้งวัน หรือนอนดูซีรีส์เรื่องโปรดข้ามคืน ก็สามารถทำได้อย่างต่อเนื่อง โดยสามารถเล่นไฟล์วิดีโอในเครื่องได้ยาวนานถึง 14 ชั่วโมงเต็ม

และเมื่อแบตเตอรี่ใกล้หมด ก็ไม่ต้องรอนาน เพราะมาพร้อมเทคโนโลยีชาร์จเร็ว HUAWEI SuperCharge 40 วัตต์ ที่สามารถชาร์จจาก 0% ถึง 100% ได้ในเวลาเพียง 94 นาที หรือหากมีเวลาจำกัด แค่ชาร์จทิ้งไว้เพียง 30 นาที ก็ได้พลังงานเพียงพอสำหรับใช้งานต่อได้อีกหลายชั่วโมง นอกจากนี้ อุปกรณ์เสริมอย่าง HUAWEI Smart Keyboard และ HUAWEI M-Pencil รุ่นที่ 3 ยังรองรับการชาร์จไร้สายจากตัวแท็บเล็ตโดยตรง เพิ่มความสะดวกสบายให้ถึงขีดสุด

ด้านประสิทธิภาพ ตัวเครื่องมาพร้อมระบบระบายความร้อนที่ถูกพัฒนาขึ้นใหม่ ช่วยให้ชิปประมวลผลทำงานได้เต็มศักยภาพยาวนานขึ้น ส่งผลให้ประสิทธิภาพโดยรวมสูงกว่ารุ่นก่อนถึง 25% มั่นใจได้ว่าทุกการใช้งานจะลื่นไหล ไม่ว่าจะเป็นการทำงานเอกสารที่ซับซ้อน, การตัดต่อวิดีโอเบื้องต้น หรือการเล่นเกม ก็ทำได้อย่างราบรื่นไม่มีสะดุด

นวัตกรรมหน้าจอ PaperMatte: ปฏิวัติการมองเห็นและการเขียน

หนึ่งในฟีเจอร์ที่โดดเด่นและเป็นไฮไลท์ที่สุดของ HUAWEI MatePad 11.5” 2025 คือ หน้าจอ PaperMatte ที่หัวเว่ยพัฒนาขึ้นมาเพื่อสุขภาพสายตาของผู้ใช้งานโดยเฉพาะ ด้วยเทคโนโลยีการแกะสลักผิวกระจกด้วยเลเซอร์ในระดับนาโน ทำให้หน้าจอสามารถลดการสะท้อนของแสงได้อย่างยอดเยี่ยม ช่วยให้มองเห็นคอนเทนต์ได้อย่างคมชัดแม้ใช้งานในที่ที่มีแสงจ้า

ยิ่งไปกว่านั้น หน้าจอยังมอบสัมผัสในการเขียนด้วย HUAWEI M-Pencil ที่เหมือนการจรดปากกาลงบนกระดาษจริงๆ สร้างแรงเสียดทานที่พอเหมาะ ให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติ ไม่ลื่นจนเกินไปเหมือนหน้าจอทั่วไป นอกจากนี้ เทคโนโลยี Circular Polarization ยังช่วยให้แสงจากหน้าจอกระจายตัวอย่างนุ่มนวล ลดอาการเมื่อยล้าของดวงตาเมื่อต้องจ้องมองเป็นเวลานาน

สำหรับนักอ่าน หน้าจอ PaperMatte ยังมาพร้อม Color Mode ที่สามารถปรับโทนสีของหน้าจอให้ใกล้เคียงกับสีหมึกบนกระดาษจริงเมื่อใช้งานในโหมด eBook ผสานกับการรับรองมาตรฐานจาก TÜV Rheinland ทั้งในด้านการลดแสงสีฟ้าและการลดการกระพริบของหน้าจอ ทำให้ HUAWEI MatePad 11.5” 2025 เป็นแท็บเล็ตที่มอบประสบการณ์การอ่านที่สบายตาที่สุด ไม่ต่างจากการอ่านหนังสือเล่มโปรดเลยทีเดียว

เปลี่ยนแท็บเล็ตให้เป็น PC: ประสบการณ์ทำงานที่ครบครัน

HUAWEI MatePad 11.5” 2025 ไม่ได้เป็นแค่แท็บเล็ตเพื่อความบันเทิง แต่ยังสามารถแปลงร่างเป็นคอมพิวเตอร์พกพาได้อย่างสมบูรณ์แบบ เมื่อใช้งานร่วมกับชุดอุปกรณ์เสริมอย่าง HUAWEI Smart Keyboard ที่ให้สัมผัสการพิมพ์ที่แม่นยำ, HUAWEI M-Pencil รุ่นที่ 3 สำหรับการจดบันทึกและสร้างสรรค์ผลงาน และ HUAWEI Bluetooth Mouse เพื่อการควบคุมที่สะดวกยิ่งขึ้น

ทั้งหมดนี้ถูกขับเคลื่อนด้วยแอปพลิเคชัน PC-Level WPS Office 2.0 ที่มอบประสบการณ์การใช้งานโปรแกรมเอกสารเทียบเท่าบนเครื่องพีซี พร้อมด้วยแอปอื่นๆ ที่ติดตั้งมาให้ฟรีอย่าง HUAWEI Notes และ GoPaint ตอบโจทย์ทั้งการทำงาน การเรียน และการปลดปล่อยจินตนาการได้อย่างไร้ขีดจำกัด

ราคาและโปรโมชันสุดพิเศษ ที่คุณไม่ควรพลาด

HUAWEI MatePad 11.5” 2025 เปิดตัวในราคาที่เข้าถึงง่ายอย่างน่าทึ่ง เพียง 12,990 บาท

และเพื่อมอบประสบการณ์ PC-Like ที่สมบูรณ์แบบที่สุด หัวเว่ยได้จัดโปรโมชันสุดพิเศษสำหรับผู้ที่สั่งจองในช่วงพรีออเดอร์ ระหว่างวันที่ 29 สิงหาคม – 4 กันยายน 2568 รับฟรีของสมนาคุณแบบจัดเต็ม รวมมูลค่ากว่า 18,940 บาท ประกอบด้วย:

• HUAWEI Smart Keyboard มูลค่า 4,990 บาท
• HUAWEI M-Pencil (3rd generation) มูลค่า 4,490 บาท
• HUAWEI Bluetooth Mouse มูลค่า 1,490 บาท
• PC-Level WPS Office มูลค่า 3,990 บาท
• HUAWEI Notes มูลค่า 1,990 บาท
• GoPaint มูลค่า 1,990 บาท

พร้อมรับสิทธิ์โปรโมชัน "เก่าแลกใหม่" ที่มอบส่วนลดเพิ่มเติมทันที 2,000 บาท เมื่อนำอุปกรณ์เครื่องเก่ามาแลกซื้อ

HUAWEI MatePad 11.5” 2025 ไม่ใช่แค่แท็บเล็ตรุ่นใหม่ แต่คือคำตอบสำหรับผู้ที่มองหาอุปกรณ์ "หนึ่งเดียว" ที่สามารถเป็นได้ทั้งเพื่อนคู่ใจในวันพักผ่อน และเป็นเครื่องมือทรงพลังสำหรับวันทำงานและการเรียน ด้วยดีไซน์ที่บางเบาแต่แข็งแกร่ง, แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ทั้งวัน, ประสิทธิภาพที่ไว้ใจได้ และนวัตกรรมหน้าจอถนอมสายตา ทำให้แท็บเล็ตรุ่นนี้พร้อมที่จะยกระดับประสบการณ์การใช้งานของคุณไปอีกขั้น

สามารถเป็นเจ้าของและสัมผัสประสบการณ์เหนือระดับได้แล้ววันนี้ที่ HUAWEI Experience Store และร้านค้าที่ร่วมรายการ รวมถึงช่องทางออนไลน์ที่ HUAWEI Store และร้านค้าอย่างเป็นทางการของหัวเว่ยบน Lazada, Shopee และ TikTok Shop