วันเสาร์, 25 ตุลาคม 2568
✅ สามารถส่งข่าวแจก บทความประชาสัมพันธ์ ได้ที่อีเมล์ [email protected] ฟรี !
🎬ติดต่องานรีวิว Line : iNewch
สะเทือนหูทองวงการมือถือ Redmi K90 Pro Max ยัดระบบเสียง 2.1 แชนเนล พร้อมซับวูฟเฟอร์ของ ‘Bose’
ROG เปิดตัว ROG Xbox Ally ทั้ง 2 รุ่น ในงาน gamescom asia X Thailand Game Show 2025
vivo V60 Lite เปิดตัวแล้ว 9,999 บาท
realme จับมือ RICOH ประกาศความร่วมมือระยะยาว ยกตำนานกล้อง RICOH GR สู่สมาร์ตโฟน realme GT 8 Pro
ASUS ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดคอมพิวเตอร์ธุรกิจ เปิดตัว “ASUS Expert Series” โซลูชันครบวงจรสำหรับทุกองค์กรในประเทศไทย
ดรีมมีจัดงาน “DREAME HOME: DREAM FOR ALL” บ้านในฝัน รวมนวัตกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะ
คืนชีวิตให้เครื่องพิมพ์เก่า! Brother แจกโปรแรง ทิ้งไว้ทำซาก เทมาเลยพี่รับเอง เปลี่ยนเครื่องพิมพ์เก่าแลกส่วนลดจุก ๆ สูงสุด 2,000 บาท
HUAWEI MatePad 11.5” 2025 แรงจริง เบาจริง อึดจริง แท็บเล็ตที่ตอบโจทย์การใช้งานแบบพีซีได้ตลอดวัน
Dyson เล่นใหญ่ โชว์เทคโนโลยีใน 11 สินค้าใหม่ ตอกย้ำจุดยืนผู้นำด้านเทคโนโลยีที่แก้ไขปัญหาในทุกบ้าน
เปิดตัว Samsung Galaxy S25 FE ในไทยแล้ววันนี้ S Series ตัวซีเคร็ต แค่สองหมื่นต้น รับโปรฯ แรง 3 ต่อ
vivo V60 คอลแลบ POP MART Zsiga เพื่อพาทุกคนค้นพบความสนุกในทุกช็อต
Lenovo เปิดฉากอนาคต: ยกทัพไลน์อัพใหม่ประจำปี 2025 จัดเต็มทั้งเกมมิ่ง, แท็บเล็ต และนวัตกรรม AI สุดล้ำ!
  • OPPO เตรียมเปิดตัว OPPO Find X9 Series สมาร์ตโฟนแฟลกชิปรุ่นล่าสุด มาพร้อมประสบการณ์ซูมดีทุกคอนเสิร์ต เร็วๆ นี้!

    วงการสมาร์ตโฟนเตรียมสั่นสะเทือนอีกครั้ง! ออปโป้ ไทยแลนด์ (OPPO Thailand) ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมและประสบการณ์การใช้งานที่เหนือกว่า ประกาศเตรียมส่งสมาร์ตโฟนแฟลกชิปรุ่นใหญ่ที่สุดแห่งปี OPPO Find X9 Series ลงสู่ตลาด พร้อมชูสโลแกนเด็ด "สมาร์ตโฟนซูมดีทุกคอนเสิร์ต" ที่จะมาเปลี่ยนประสบการณ์การชมคอนเสิร์ตของคุณไปตลอดกาล

    ปัญหาการถ่ายภาพหรือวิดีโอในคอนเสิร์ตจากระยะไกลแล้วได้ภาพที่ไม่คมชัดกำลังจะหมดไป ด้วยการมาของเทคโนโลยีกล้องสุดล้ำ 200MP Hasselblad Telephoto ที่ออปโป้บรรจงพัฒนาร่วมกับแบรนด์กล้องระดับโลกอย่าง Hasselblad ทำให้ OPPO Find X9 Series สามารถเก็บทุกรายละเอียดความประทับใจบนเวทีได้อย่างคมชัด แม้ว่าคุณจะนั่งอยู่แถวหลังสุดก็ตาม

    หัวใจสำคัญคือพลังการซูมที่ก้าวกระโดด ด้วย 120x Super Zoom ที่จะดึงภาพศิลปินคนโปรดของคุณจากระยะไกลมาอยู่ตรงหน้า ให้คุณไม่พลาดทุกช็อตสำคัญ ทุกการแสดง และทุกอารมณ์บนเวที ตอบโจทย์ทุกสายคอนเสิร์ตที่ต้องการบันทึกโมเมนต์สุดพิเศษด้วยคุณภาพสูงสุด

    เพื่อเป็นการยืนยันถึงประสิทธิภาพอันน่าทึ่งนี้ ออปโป้ยังได้ปล่อยวิดีโอตัวอย่างที่โชว์พลังการซูมจากกล้อง 200MP Hasselblad Telephoto ในสถานการณ์คอนเสิร์ตจริง ให้เห็นถึงความคมชัดและพลังการซูมไกลที่น่าประทับใจ

    นอกจากความโดดเด่นด้านกล้องแล้ว OPPO Find X9 Series ยังมาพร้อมดีไซน์ใหม่ที่สะท้อนความพรีเมียมในทุกสัมผัส ด้วยขอบหน้าจอบางเฉียบที่มอบประสบการณ์การรับชมที่เต็มตา และการออกแบบตัวเครื่องที่คำนึงถึงหลักสรีรศาสตร์ ทำให้จับถือได้ถนัดมือ แม้จะต้องถือถ่ายวิดีโอนานๆ ตลอดทั้งคอนเสิร์ต

    เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการยกระดับประสบการณ์การถ่ายภาพของคุณให้เหนือไปอีกขั้น! OPPO Find X9 Series พร้อมแล้วที่จะให้คุณได้พิสูจน์ความเป็นสุดยอดสมาร์ตโฟนแฟลกชิปแห่งปี ในงานเปิดตัวอย่างเป็นทางการ วันที่ 29 ตุลาคมนี้!

    https://youtu.be/ozzsHPLY1eg?si=lI2HFF-QdGQOGEqy

    ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.facebook.com/oppothai

    #OPPOFindX9SeriesTH #ซูมดีทุกคอนเสิร์ต #กล้องHasselbladซูมชัด200MP

  • ลำโพงพกพาพร้อมไฟ RGB “JLab Go Party” และ “JLab Pop Party”

    เปิดตัวลำโพงบลูทูธพกพาสองรุ่นใหม่ล่าสุด ได้แก่ JLab Go Party และ JLab Pop Party ที่ออกแบบมาเพื่อยกระดับประสบการณ์ปาร์ตี้ของคุณให้สุดเหวี่ยงยิ่งกว่าเดิม

    ลำโพงทั้งสองรุ่นไม่ได้มาพร้อมแค่พลังเสียงสุดเร้าใจและเอฟเฟกต์ไฟ RGB สุดล้ำเท่านั้น แต่ยังพกพาเทคโนโลยีเด็ดอย่าง LabSync ที่อนุญาตให้ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อลำโพง JLab Party รุ่นอื่นๆ ได้พร้อมกันสูงสุดถึง 100 ตัว สร้างอาณาจักรเสียงที่ครอบคลุมทั่วทั้งงาน หรือหากต้องการมิติเสียงที่สมจริง ก็สามารถเลือกปรับเป็นระบบเสียงสเตอริโอ (Stereo) ผ่านแอปพลิเคชัน JLab ได้อย่างง่ายดาย


    เจาะลึก JLab Go Party: พลังเสียงหนักแน่น ดีไซน์พร้อมลุย

    สำหรับรุ่นพี่ใหญ่อย่าง JLab Go Party มาในดีไซน์ทรงกระบอกที่ดูแข็งแกร่งและเหมาะกับการเป็นศูนย์กลางของงานปาร์ตี้ ภายในอัดแน่นด้วยขุมพลังเสียงจากไดร์เวอร์แบบฟูลเรนจ์ขนาด 2 นิ้ว จำนวน 2 ตัว ทำงานร่วมกับพาสซีฟวูฟเฟอร์อีก 2 ตัว ผลลัพธ์ที่ได้คือมิติเสียงที่เต็มอิ่ม ครอบคลุมทุกย่านความถี่ ไม่ว่าจะเป็นเสียงเบสที่ลงได้ลึก หรือเสียงกลางแหลมที่ชัดเจน

    จุดเด่นที่น่าสนใจของ JLab Go Party:

    • ฟังก์ชันการใช้งานครบครัน: มาพร้อมไมโครโฟนในตัว ทำให้คุณไม่พลาดทุกการติดต่อ สามารถพูดคุยและรับสายได้อย่างสะดวก แม้กำลังปาร์ตี้อยู่
    • ทนทาน พร้อมลุย: เสริมความคล่องตัวด้วยสายคล้องในตัว และมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นระดับ IP56 มั่นใจได้ในการใช้งานทุกที่ ทุกเวลา ไม่ว่าจะเป็นปาร์ตี้ริมสระว่ายน้ำ หรือทริปแคมป์ปิ้งกลางป่า
    • ควบคุมง่าย: โดดเด่นด้วยปุ่มหมุน JLab Media Knob ที่ช่วยให้การเพิ่ม-ลดเสียง หรือควบคุมเพลงเป็นไปอย่างง่ายดาย พร้อมปุ่มลัดอีก 3 ปุ่มเพื่อการเข้าถึงฟังก์ชันที่รวดเร็ว
    • แบตเตอรี่สุดอึด: ใช้งานได้นานสูงสุดถึง 16 ชั่วโมง (เมื่อปิดไฟ RGB) และ 8 ชั่วโมง (เมื่อเปิดไฟ RGB) ให้คุณสนุกได้ต่อเนื่องตลอดคืน

    JLab Go Party วางจำหน่ายในราคา 1,690 บาท


    JLab Pop Party: จิ๋วแต่แจ๋ว พกพาสะดวกขั้นสุด

    ในขณะที่รุ่นน้องอย่าง JLab Pop Party ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์สายพกพาโดยเฉพาะ ด้วยดีไซน์แบบ Ultra-Portable ขนาดเล็กกะทัดรัด และสายคล้องแบบถอดได้ ทำให้คุณสามารถพกพาเสียงเพลงติดตัวไปสร้างปาร์ตี้ได้ในทุกที่ ทุกเวลา

    แม้ตัวจะเล็ก แต่พลังเสียงไม่ได้เล็กตาม ภายในติดตั้งไดร์เวอร์แบบฟูลเรนจ์ขนาด 2 นิ้ว และพาสซีฟวูฟเฟอร์ขนาด 2 นิ้ว มอบกำลังขับ 5 วัตต์ ที่ให้เสียงเบสหนักแน่นเกินตัว

    จุดเด่นของ JLab Pop Party:

    • เรียบง่ายแต่ทรงพลัง: ควบคุมการใช้งานได้ง่ายด้วยปุ่มมัลติฟังก์ชันเพียงปุ่มเดียว
    • กันน้ำ กันฝุ่น: มาตรฐาน IP55 เพียงพอต่อการป้องกันละอองน้ำและฝุ่นละอองในชีวิตประจำวัน
    • แบตเตอรี่: ใช้งานได้ต่อเนื่องสูงสุด 8 ชั่วโมง (เมื่อปิดไฟ RGB) หรือ 5 ชั่วโมง (เมื่อเปิดไฟ RGB)

    JLab Pop Party วางจำหน่ายในราคา 990 บาท


    ปรับแต่งได้ดั่งใจผ่าน JLab App และการรับประกัน

    ความพิเศษของลำโพงทั้งสองรุ่นคือการเชื่อมต่อกับ แอปพลิเคชัน JLab ที่ให้คุณสามารถปรับแต่งเสียง (EQ) ได้ตามแนวเพลงที่ชอบ, เลือกเอฟเฟกต์ไฟ RGB ให้เข้ากับบรรยากาศปาร์ตี้ รวมถึงการอัปเดตซอฟต์แวร์ (Firmware) ของลำโพงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในอนาคต เพื่อความมั่นใจในการใช้งาน JLab ยังมอบการรับประกันสินค้านานถึง 2 ปีเต็ม


    ราคาและการวางจำหน่าย

    • JLab Go Party ราคา 1,690 บาท
    • JLab Pop Party ราคา 990 บาท

    ทั้งสองรุ่นมีให้เลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่ Black, Cyan, Pink และ Navy โดยในช่วงแรกจะวางจำหน่ายเฉพาะ สีดำ เพียงสีเดียวก่อน ส่วนอีก 3 สีจะทยอยวางจำหน่ายในลำดับถัดไป

    ผู้ที่สนใจสามารถหาซื้อลำโพง JLab Go Party และ JLab Pop Party ได้แล้ววันนี้ที่ร้านค้าใกล้บ้านคุณ อาทิ Banana, BB Beyond D-Box, Power Mall Paragon, B2S เมกาบางนา รวมถึงร้านค้าออนไลน์อย่างเป็นทางการ เช่น Banana IT, Shopee by Retina, OfficeMate, Central Online by RTB, Shopee by JLab Flagship Store, Lazada by JLab Flagship Store, NocNoc by RTB, TikTok Shop by RTB และร้านค้าปลีกอื่น ๆ ที่ได้รับอนุญาตทั่วประเทศ


    ห้ามพลาด! ทดลองเสียงจริงได้ที่งาน Thailand Mobile Expo 2025

    สำหรับผู้ที่สนใจและอยากสัมผัสพลังเสียงของลำโพงทั้งสองรุ่นด้วยหูของคุณเอง JLab ขอเชิญมาร่วมทดสอบคุณภาพเสียงได้ที่ บูธ RTB หมายเลข CM5 และ CM6 ภายในงาน Thailand Mobile Expo 2025 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 23–26 ตุลาคม 2568 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ งานนี้ห้ามพลาด!

  • Viltrox บุกตลาดโปร! เปิดตัวเลนส์เทพ AF 50mm F1.4 Pro FE สำหรับ Sony E-mount สเปคจัดเต็ม, บอดี้กันละอองน้ำ, มอเตอร์ AF คู่สุดไว

    วงการเลนส์สะเทือนอีกครั้ง! Viltrox (วิลทร็อกซ์) ประกาศเปิดตัวเลนส์ไพรม์ออโต้โฟกัสเกรดโปร รุ่นใหม่ล่าสุด AF 50mm F1.4 Pro FE อย่างเป็นทางการ โดยพุ่งเป้าไปที่กลุ่มช่างภาพและนักถ่ายวิดีโอมืออาชีพที่ใช้งานกล้องฟูลเฟรม Sony E-mount ที่ต้องการเลนส์คุณภาพสูง, รูรับแสงกว้าง และประสิทธิภาพที่เชื่อถือได้ในทุกสถานการณ์

    สเปคจัดเต็ม สมชื่อ "Pro"

    เลนส์ Viltrox AF 50mm F1.4 Pro FE มาพร้อมโครงสร้างชิ้นเลนส์ที่ซับซ้อนถึง 15 ชิ้นใน 11 กลุ่ม ประกอบด้วยชิ้นเลนส์พิเศษมากมาย ได้แก่ ชิ้นเลนส์ Aspherical ความแม่นยำสูง 1 ชิ้น, ชิ้นเลนส์ Extra-low Dispersion (ED) 3 ชิ้น และชิ้นเลนส์ High-refractive 8 ชิ้น

    ทาง Viltrox เคลมว่า การออกแบบขั้นสูงนี้ช่วยให้เลนส์มีความคมชัดสูง "คมกริบตั้งแต่ขอบภาพยันขอบภาพ" แม้จะเปิดรูรับแสงกว้างสุดที่ F1.4 พร้อมทั้งจัดการอาการขอบม่วง (Chromatic Aberration) และความบิดเบือนของภาพ (Distortion) ได้อย่างยอดเยี่ยม นอกจากนี้ ยังโดดเด่นในเรื่องการลดอาการ "Focus Breathing" (อาการภาพวูบวาบเมื่อเปลี่ยนระยะโฟกัส) ทำให้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับงานวิดีโอที่ต้องการความนิ่งของเฟรมภาพ

    มอเตอร์ AF ใหม่ "Dual HyperVCM" โฟกัสไวเงียบ

    ด้านระบบออโต้โฟกัส เลนส์ตัวนี้ใช้มอเตอร์ "Dual HyperVCM" (VCM คู่) รุ่นใหม่ล่าสุด ที่ให้การโฟกัสที่รวดเร็ว, เงียบ และแม่นยำสูง รองรับการทำงานร่วมกับระบบ Face and Eye Detection (ตรวจจับใบหน้าและดวงตา) ของ Sony ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ มีระยะโฟกัสใกล้สุดอยู่ที่ 0.45 เมตร

    บอดี้แข็งแกร่ง ทนทานทุกสภาพอากาศ

    ในด้านการผลิต Viltrox เลือกใช้วัสดุอลูมิเนียมอัลลอยด์ฟอร์จ (forged aluminum alloy) ที่มีความแข็งแรงสูงในการผลิตบอดี้เลนส์ พร้อมการออกแบบซีลกันละอองน้ำและฝุ่น (full weather sealing) รอบตัว เพื่อป้องกันความเสียหายจากสภาพอากาศที่เลวร้าย นอกจากนี้ เลนส์ชิ้นหน้ายังมี การเคลือบผิวแบบพิเศษเพื่อกันน้ำและคราบรอยเปื้อน

    เลนส์ตัวนี้ยังมาพร้อมฟีเจอร์สำหรับมืออาชีพครบครัน ไม่ว่าจะเป็น สวิตช์ AF/MF, ปุ่มฟังก์ชันที่ผู้ใช้สามารถปรับแต่งค่าได้ (Customizable function button) และวงแหวนรูรับแสงที่สามารถเลือกระหว่างแบบ "Click" (มีเสียงคลิก) หรือ "De-click" (หมุนลื่น ไม่มีเสียง) สำหรับงานวิดีโอ อีกทั้งยังมีพอร์ต USB-C ที่ตัวเลนส์สำหรับอัปเดตเฟิร์มแวร์ได้โดยตรง

    ราคาและการวางจำหน่าย

    Viltrox AF 50mm F1.4 Pro FE เริ่มวางจำหน่ายแล้ววันนี้ผ่านเว็บไซต์อย่างเป็นทางการและร้านค้า Amazon ในสหรัฐฯ โดยเปิดราคามาที่ $549 (ประมาณ 18,xxx - 19,xxx บาท ยังไม่รวมภาษี), €619 ในยุโรป และ £525 ในสหราชอาณาจักร สำหรับสต็อกในยุโรปคาดว่าจะพร้อมจำหน่ายในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนนี้

  • สะเทือนหูทองวงการมือถือ Redmi K90 Pro Max ยัดระบบเสียง 2.1 แชนเนล พร้อมซับวูฟเฟอร์ของ ‘Bose’

    เรียกเสียงฮือฮาในวงการสมาร์ทโฟนอีกครั้ง! เมื่อมีรายงานล่าสุดว่า Redmi K90 Pro Max ว่าที่เรือธงตัวใหม่จากค่าย Xiaomi เตรียมสร้างปรากฏการณ์ใหม่ ด้วยการ "ปฏิวัติระบบเสียงบนมือถือ" ที่กำลังจะมาถึง

    แหล่งข่าวระบุว่า K90 Pro Max จะเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นบุกเบิกที่มาพร้อมกับระบบเสียง 2.1 แชนเนล แบบจัดเต็ม! โดยไฮไลท์เด็ดอยู่ที่การติดตั้งลำโพงตัวที่ 3 แยกต่างหาก ซึ่งจะทำหน้าที่เป็น "ซับวูฟเฟอร์" (Subwoofer) อย่างแท้จริง ไม่ใช่แค่ลำโพงสเตอริโอคู่ธรรมดาๆ ที่เราเคยเห็นกัน

    งานนี้การันตีคุณภาพความกระหึ่มด้วยการจับมือกับมหาเทพด้านเครื่องเสียงอย่าง 'Bose' ซึ่งได้รับการยืนยันแล้วว่าจะมีตราสัญลักษณ์ของ Bose ประทับอยู่บนลำโพงซับวูฟเฟอร์ตัวนี้ด้วย!

    นี่ถือเป็นการเข้ามาแก้ "จุดอ่อน" สำคัญของวงการมือถือ ที่มักจะให้เสียงที่ "บาง" และ "แหลมเล็ก" มาโดยตลอด โดย Redmi K90 Pro Max ตั้งเป้ามอบประสบการณ์เสียงเบสที่ทุ้มลึก หนักแน่นและทรงพลังอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนบนสมาร์ทโฟน เอาใจคอเกมและสายดูหนังโดยเฉพาะ ให้ดื่มด่ำกับอรรถรสได้แบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย

    ข่าวดังกล่าวสอดคล้องกับข้อมูลจาก Digital Chat Station แหล่งข่าววงในชื่อดัง ที่ออกมายืนยันผ่าน Weibo ว่าอุปกรณ์นี้จะใช้ระบบเสียง 2.1 แชนเนลจริง ซึ่งการออกแบบโมดูลกล้องด้านหลังทรงกลมขนาดใหญ่นั้น ก็เพื่อเว้นที่ว่างให้กับลำโพงซับวูฟเฟอร์ตัวนี้นั่นเอง

    ไม่เพียงแค่เสียงเท่านั้น สเปคภายในก็จัดเต็มไม่แพ้กัน มีรายงานว่า K90 Pro Max จะขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ตตัวแรงแห่งยุคอย่าง Snapdragon 8 Elite Gen 5

    ทั้งนี้ Xiaomi มีกำหนดเปิดตัวซีรีส์ Redmi K90 ในวันที่ 23 ตุลาคมนี้ ที่ประเทศจีน ซึ่งเป็นที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง เพราะซีรีส์ K นี้ ก็คือร่างทรงของมือถือแบรนด์ POCO F8 ที่จะลุยตลาดโลกนั่นเอง งานนี้ต้องมาลุ้นกันว่า POCO F8 Ultra ที่จะขายทั่วโลก จะได้ระบบเสียงสุดเทพนี้มาด้วยหรือไม่!

    Source : androidheadlines

  • ROG เปิดตัว ROG Xbox Ally ทั้ง 2 รุ่น ในงาน gamescom asia X Thailand Game Show 2025

    วงการเกมพกพา (Handheld) ในประเทศไทยต้องสั่นสะเทือนอีกครั้ง! เมื่อ เอซุส (ASUS) ภายใต้แบรนด์เรือธงสำหรับเกมเมอร์อย่าง รีพับบลิค ออฟ เกมเมอร์ส (ROG) ได้สร้างปรากฏการณ์ครั้งสำคัญ ด้วยการประกาศเปิดตัวเครื่องเล่นเกมพกพาซีรีส์ใหม่ล่าสุด ที่พัฒนาร่วมกับทีมงาน Xbox อย่างใกล้ชิด ภายใต้ชื่อ "ROG Xbox Ally" และ "ROG Xbox Ally X"

    การเปิดตัวครั้งนี้เกิดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่บนเวทีสุด Exclusive ในงาน gamescom asia X Thailand Game Show 2025 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยซีรีส์ใหม่นี้ตั้งเป้าที่จะยกระดับมาตรฐานของเครื่องเล่นเกมพกพาไปอีกขั้น ผสานข้อดีของการเล่นเกมบน PC และประสบการณ์ที่ไร้รอยต่อแบบ Xbox เข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังโปรเซสเซอร์ AMD Ryzen™ Z2 Series รุ่นล่าสุด ที่ไม่เพียงแค่แรง แต่ยังโดดเด่นด้านการจัดการพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมมอบประสบการณ์การเล่นเกมบนแพลตฟอร์ม Xbox แบบเต็มอิ่มในมือคุณ

    และเพื่อความอุ่นใจของเกมเมอร์ชาวไทย ASUS ยังมอบประกันอุบัติเหตุ Perfect Warranty 1 ปี ที่ครอบคลุมค่าอะไหล่ถึง 80% ให้กับเครื่องเล่นเกมพกพาทั้งสองรุ่นนี้ ถือเป็นแบรนด์แรกที่กล้ามอบการรับประกันสุดพิเศษนี้ให้กับวงการเกมมิ่งแฮนด์เฮลด์

    สองขุมพลัง สองทางเลือกสำหรับเกมเมอร์

    ROG เปิดตัวมาพร้อมกัน 2 รุ่น เพื่อตอบโจทย์เกมเมอร์ที่มีสไตล์การเล่นและงบประมาณที่แตกต่างกัน

    1. ROG Xbox Ally (เครื่องสีขาว) - สมดุลแห่งประสิทธิภาพ พกพาสะดวก

    สำหรับเกมเมอร์ที่มองหาความคุ้มค่าและประสิทธิภาพที่เพียงพอต่อการเล่นเกมส่วนใหญ่ในปัจจุบัน ROG Xbox Ally สีขาวคือคำตอบ

    • ราคา: 18,990 บาท
    • CPU: AMD Ryzen™ Z2 A (4 Cores / 8 Threads, Boost Clock สูงสุด 3.8 GHz)
    • จุดเด่น CPU: เน้นการประหยัดพลังงาน มอบประสิทธิภาพเทียบเท่าเครื่องคอนโซลยุคปัจจุบัน แต่สามารถเล่นเกมได้ยาวนานหลายชั่วโมง
    • RAM: 16GB LPDDR5X-6400
    • Storage: 512GB SSD M.2
    • Battery: 60Wh
    • น้ำหนัก: 670 กรัม

    2. ROG Xbox Ally X (เครื่องสีดำ) - ขุมพลัง AI เพื่ออนาคตและการเล่นเกมระดับ AAA

    สำหรับเกมเมอร์สายฮาร์ดคอร์ที่ต้องการ "ที่สุด" ของประสิทธิภาพ รองรับเกมฟอร์มยักษ์ในอนาคต และเทคโนโลยี AI ล้ำสมัย ROG Xbox Ally X สีดำคือตัวจบ

    • ราคา: 29,990 บาท
    • CPU: AMD Ryzen™ AI Z2 Extreme (8 Cores / 16 Threads, Boost Clock สูงสุด 5.0 GHz)
    • จุดเด่น CPU: รองรับการเล่นเกมระดับ AAA ในปี 2025 และอนาคตได้อย่างลื่นไหล มาพร้อมหน่วยประมวลผล AI โดยเฉพาะ AMD XDNA™ NPU 50 TOPS สำหรับการประมวลผล AI โดยเฉพาะ
    • RAM: อัปเกรดแบบก้าวกระโดด 24GB LPDDR5X-8000
    • Storage: 1TB SSD M.2
    • Battery: 80Wh (อัปเกรดเพื่อการเล่นที่ยาวนานขึ้น)
    • น้ำหนัก: 715 กรัม

    เจาะลึกฟีเจอร์เด็ด: นี่ไม่ใช่แค่เครื่องเกมพกพา แต่คือ "Xbox" ในมือคุณ

    สิ่งที่ทำให้ซีรีส์ ROG Xbox Ally แตกต่าง ไม่ใช่แค่สเปก แต่คือการผสานซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ที่คิดมาเพื่อเกมเมอร์อย่างแท้จริง

    All Access. One Xbox button.

    หัวใจหลักคือการเข้าถึงที่ง่ายดาย ด้วยปุ่ม Xbox ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ ผู้เล่นสามารถกดเพื่อเรียก Game Bar ขึ้นมาดูสถานะระบบ, บันทึกการเล่นเกม, หรือแชทกับเพื่อนได้ทันที และยังมีปุ่ม Command Center สำหรับการตั้งค่าด่วนและการปรับแต่งที่ซับซ้อนในปุ่มเดียว ที่สำคัญ ด้วยระบบปฏิบัติการ Windows 11 ทำให้เครื่องนี้สามารถเข้าถึงคลังเกม PC ทั้งหมดจาก Xbox Game Pass, Steam, Epic Games และร้านค้าอื่นๆ ได้อย่างไม่มีข้อจำกัด

    ระบบโปรไฟล์เกมเริ่มต้น (Default Game Profiles)

    ลืมเรื่องการปรับแต่งที่ยุ่งยากไปได้เลย ฟีเจอร์นี้จะใช้ระบบคลาวด์เพื่อปรับสมดุลระหว่างเฟรมเรท (FPS) และการใช้พลังงาน (TDP) โดยอัตโนมัติสำหรับแต่ละเกมที่รองรับ

    • ทำงานอย่างไร? เมื่อเล่นเกมโดยใช้แบตเตอรี่ หากเกมมี FPS สูงเกินไป ระบบจะจำกัด FPS ไว้เพื่อประหยัดพลังงาน แต่หากเกมมี FPS ต่ำมาก ระบบจะเพิ่มพลังงาน (TDP) ขึ้นเล็กน้อย เพื่อดันค่า FPS ให้สูงขึ้น มอบประสบการณ์ที่ลื่นไหลที่สุดโดยที่แบตเตอรี่ยังคงใช้งานได้ยาวนาน

    Gaming Copilot (Beta) - ผู้ช่วย AI ส่วนตัว

    นี่คือผู้ช่วย AI ที่ถูกรวมเข้ากับ Game Bar โดยตรง คุณสามารถสอบถามคำแนะนำ, ขอความช่วยเหลือ, หรือดูข้อมูลเชิงลึกของเกมที่กำลังเล่นได้ง่ายๆ เพียงกดปุ่ม Command Center ค้างไว้เพื่อเปิดวิดเจ็ต หรือเปิดใช้งานโหมดเสียง (Voice Mode) โดยการกดปุ่ม Library ค้างไว้ โดยไม่ต้องออกจากเกมเลย

    Radeon Revolution และพลัง NPU แห่งอนาคต

    ด้วยพลังของการ์ดจอออนบอร์ดใน AMD Ryzen™ Z2 Series ทำให้ ROG Xbox Ally สามารถใช้ประโยชน์จากซอฟต์แวร์ AFMF (AMD Fluid Motion Frames) หรือระบบสร้างเฟรม (Frame Generation) เพื่อทำให้การเล่นเกมลื่นไหลยิ่งขึ้นในเกมใหม่ๆ

    และสำหรับรุ่น ROG Xbox Ally X ที่มี NPU (หน่วยประมวลผล AI) ในปี 2026 จะมีการปล่อยซอฟต์แวร์ที่ใช้พลัง AI เข้ามาช่วยยกระดับการเล่นเกมไปอีกขั้น ได้แก่:

    • Automatic Super Resolution (Auto SR): ใช้พลัง NPU เพื่ออัปสเกล (Upscale) ภาพเกมจากความละเอียดต่ำให้เป็นความละเอียดสูงโดยอัตโนมัติ ทำให้ได้เฟรมเรตที่สูงขึ้นและภาพที่คมชัด โดยที่ผู้เล่นไม่ต้องตั้งค่าใดๆ เพิ่มเติม
    • Highlight Reels: ระบบ AI ที่จะวิเคราะห์และบันทึกช่วงเวลาสำคัญของคุณ (เช่น การต่อสู้กับบอส หรือช็อตสวยๆ) สร้างเป็นคลิปรีเพลย์สั้นๆ ให้คุณนำไปแชร์อวดเพื่อนบนโซเชียลมีเดียได้ทันที

    การออกแบบและฮาร์ดแวร์ที่ตอบโจทย์การ "พกพา"

    การออกแบบตัวเครื่องแบบ Xbox Controls

    ROG Xbox Ally ทั้ง 2 รุ่น ถูกออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ ให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติเหมือนจับคอนโทรลเลอร์ Xbox ด้ามจับมีพื้นผิวกันลื่น โค้งมน จับกระชับมือ เหมาะสำหรับการเล่นเกมนานๆ

    • อัปเกรดในรุ่น Ally X: เพิ่มมอเตอร์สั่นในปุ่ม Impulse Triggers (LT และ RT) ทั้งสองข้าง ยกระดับความสมจริงด้วยแรงสั่นที่แม่นยำและเฉพาะจุด ไม่ว่าจะเป็นการเหยียบคันเร่งในเกมแข่งรถ หรือการลั่นไกในเกมยิงปืน
    • HD Haptics: ทั้งสองรุ่นรองรับระบบสั่นความละเอียดสูง ทำให้ผู้เล่นรับรู้ถึงการสัมผัสที่ละเอียดอ่อนและสมจริง

    จอสัมผัสที่พร้อมลุยทุกที่

    หน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว ความละเอียด Full HD (1080p) ที่สว่างถึง 500 nits ทำให้เล่นเกมกลางแจ้งได้ชัดเจน พร้อมค่าสี sRGB 100%, อัตรารีเฟรชเรท 120Hz และเทคโนโลยี FreeSync™ Premium ป้องกันภาพฉีกขาด เสริมความทนทานด้วยกระจก Corning® Gorilla® Glass Victus® พร้อมลำโพงคู่ Smart Amp ที่รองรับ Dolby Atmos ให้ทั้งภาพและเสียงที่สมจริง

    แบตเตอรี่ที่อึดขึ้นและระบบระบายความร้อนอัจฉริยะ

    • แบตเตอรี่: รุ่น Ally มาพร้อมขนาด 60Wh (รองรับ PD Charge 65W) และรุ่น Ally X อัปเกรดเป็น 80Wh (รองรับ PD Charge 100W)
    • Silent Mode ที่ทรงพลัง: ด้วยประสิทธิภาพของซีพียู Z2 Series ทำให้ Silent Mode (โหมดเงียบ) ใหม่ ให้ประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ Performance Mode ของรุ่นก่อน แต่ใช้พลังงานน้อยกว่าและเล่นได้นานขึ้น
    • ROG Intelligent Cooling: ระบบระบายความร้อนพัดลมคู่แบบ Fluid Dynamic Bearing ที่แรงเสียดทานต่ำ ทำงานได้ดีแม้ถือเครื่องในองศาต่างๆ พร้อมท่อระบายความร้อนแบบ Zero Gravity และ Dust Filter กรองฝุ่น ช่วยให้เครื่องเย็นและแรงต่อเนื่อง

    การรับประกันที่เหนือกว่าและโปรโมชั่นสุดเร้าใจ

    จุดเด่นที่ทำให้เกมเมอร์ชาวไทยสบายใจคือ ASUS Exclusive Care:

    • Carry-In Warranty 2 ปี (ส่งซ่อมศูนย์บริการ ASUS)
    • Global Warranty 2 ปี (เข้าศูนย์บริการได้กว่า 80 ประเทศทั่วโลก)
    • Perfect Warranty 1 ปี (ประกันอุบัติเหตุ ครอบคลุมค่าอะไหล่ 80%)
    • PC Game Pass ฟรี 3 เดือน (เข้าถึงเกมพีซีกว่า 300 เกม)

    โปรโมชั่น Early Bird ที่แฟน Street Fighter ห้ามพลาด!

    สำหรับลูกค้าที่สั่งซื้อ ROG Xbox Ally รุ่นใดก็ได้ ในช่วง Early Bird Promotion ระหว่างวันที่ 17-31 ตุลาคม 2568 รับไปเลยของพรีเมียมสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่มีเฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น!

    ROG x Street Fighter Boxing Gloves (นวมชกมวย) มูลค่า 2,490 บาท

    นวมชกมวยสุดเท่นี้ เป็นความร่วมมือพิเศษระหว่าง ROG และ Capcom ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก "สกัด" (SAGAT) จักรพรรดิมวยไทยจากเกม Street Fighter เพื่อแฟนๆ ชาวไทยโดยเฉพาะ

    สัมผัสตัวจริงและเป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้

    ROG ขอเชิญชวนเหล่าเกมเมอร์มาร่วมสัมผัส ROG Xbox Ally ทั้ง 2 รุ่นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ได้ที่งาน gamescom asia X Thailand Game Show 2025 ตั้งแต่วันที่ 17-19 ตุลาคม 2568 ณ ทางเข้า Exhibition Hall 4 บูธ P5 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ภายในงานพบกับอินฟลูฯ ชื่อดัง ท็อฟฟี่เป็นตุ๊ดซ่อมคอม และกิจกรรมสุดมันส์ลุ้นรับ ROG Xbox Ally วันละเครื่อง!

    สำหรับผู้ที่พร้อมเป็นเจ้าของ ROG Xbox Ally และ ROG Xbox Ally X วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้วตั้งแต่วันที่ 17 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป ผ่านช่องทางต่างๆ ดังนี้:

    • ASUS Exclusive Store ทุกสาขา
    • ROG Exclusive Store สาขาฟอร์จูนทาวน์ พระราม 9
    • ASUS Online Store
    • Shopee (ASUS ROG Official Store)
    • Lazada (ASUS Official Store)

    ติดตามข้อมูลข่าวสารและโปรโมชั่นเพิ่มเติมได้ที่: Facebook ASUS ROG (TH)