จากงานเปิดตัวที่ประเทศอินเดียที่ผ่านมา เราได้รู้ราคาเครื่องโดยคร่าวกันไปแล้วว่า realme 6 Pro จะมีเรทค่าตัวอยู่ที่ไม่ถึงหมื่น (แต่ราคาในไทยที่ขายจริงๆยังไม่ยืนยันนะ) เอาหล่ะในบทความนี้จะมาพูดถึงการพรีวิวคร่าวๆ เพื่อรอคอยวันจำหน่ายจริงกับการรีวิวเวอร์ชั่นเต็มๆ สำหรับใครที่ถูกใจส่วนไหนของรุ่นนี้ ไม่ว่าจะด้านกล้อง เล่นเกม แบต หรือ หน้าจอที่อัพเกรดมาสุดจัดปลัดสดุ้งตื่นเนี่ย เตรียมตัวเสียเงินได้เลย
realme 6 Pro ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 720G (8nm) Octa-core ใช้ GPU Adreno 618 ช่วยให้ประมวลผลกราฟฟิกได้ดีกว่าเดิม ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นถึง 75% เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ถาดใส่ซิมแบบ Triple-slot2 ซิมการ์ด แบบ Nano Sim และช่องใส่ Micro SD /รองรับเมมโมรี่การ์ดได้มาถึง 256GB โดยสเปคต่างประเทศมีให้เลือกอยู่หลายความจุด้วยกันทั้ง
RAM : 6 GB / ROM : 64 GB
RAM : 6 GB / ROM : 128 GB
RAM : 8 GB / ROM : 128 GB (คาดว่าสเปคนี้จะจัดจำหน่ายในประเทศไทย)
realme UI ภายใต้ระบบปฏิบัติการ Android 10 หน้าจอขนาด 6.6 นิ้ว อัตรา Refresh Rate 90Hz และเป็นหน้าจอ Punch-Hole หรือคุ้นหูว่ากล้องหน้าแบบเจาะรูซึ่งรุ่นนี้เป็นกล้องคู่ด้วยนะ 16+8 ล้านพิกเซล ทำหน้าที่เป็นกล้อง Normal และ กล้อง Ultra Wide 105° เก็บภาพมุมกว้างเซลฟี่เพลินๆ เพิ่มมุมมองของการเซลฟี่ได้ถึง 2.5 เท่า และยังมีเทคโนโลยีชาร์จเร็ว VOOC Flash Charge 30W ชาร์จเต็ม 100% ภายใน 1 ชั่วโมง อั๊ยย๊ะเอ้ยยยย ไวจัดๆ โดยให้แบตมาที่ 4300 mAh
อุปกรณ์ภายในกล่อง
- เคสใส่นุ่มนิ่ง สีควันรมดำ
- สายชาร์จ USB C พอร์ตสีเหลือง
- เข็มจิ้มซิม
- อแดบเตอร์ 30w. หรือว่า 5V. 6A.
- สีที่เปิดตัวได้รับแรงบันดาลใจจากความทรงพลังของสายฟ้า เกิดเป็นสองสีพิเศษ Lightning Blue และ Lightning Red
วิธีการปลดล็อคเครื่องเป็นลักษณะสแกนลายนิ้วมือด้านข้างตัวเครื่อง “Fast Side Fingerprint” ไม่ต้องกดน้ำหนักนิ้วลงไปเลย แค่แตะข้างๆตัวเครื่องมีความไวการตอบสนองที่ดีมาก ซึ่งในสเปคเขาการันตรีไว้ที่ 0.38 วินาที บร๊ะะะไม่ธรรมดาเลยพี่
พอร์ตการเชื่อมต่อต่างๆของตัวเครื่องนี้ ออกแบบมารองรับกับหลายๆคนที่ประสบพบเจอร์ปัญหามาจากหลายๆเครื่องเช่น อยากต่อไมโครโฟน อยากต่อหูฟังง่ายๆไม่ต้องใช้สายแปลง realme 6 Pro นี้มีพอร์ต Minijack 3.5mm. มาให้ด้วย เสียบหูฟังได้เลย ส่วนพอร์ตชาร์จไฟ Type C วางตำแหน่งไว้อยู่ตรงกลางพบดิบพอดี ทำให้เวลาเล่นเกม สายชาร์จไม่มาเกะกะใดๆเลย ส่วนตำแหน่งลำโพงก็อยู่บริเวณด้านขวาบนเวลาถือเล่นเกมแนวนอนใครสายเกมส์มิ่งถูกใจนิ้วไม่บังแน่นอนอ่ะ รองรับระบบเสียง Dolby Atmos และคุณภาพเสียง Hi-Res เพื่อประสบการณ์การฟังที่เหนือชั้น
พูดถึงหน้าจอกันบ้างครับ อัตรา refresh rate 90Hz มีความลื่นไหลในการแสดงผลภาพที่ดีมากขึ้น การทัชต่างๆก็ดีขึ้น ลื่นฟีดต่างๆมันส์ขึ้นแน่นอนไม่ลายตาอีกต่อไป ช่วยให้แสดงผลภาพได้คมชัดมากยิ่งขึ้น และสามารถปรับการมองเห็นได้ดีไม่ว่าจะในที่แสงมาก หรือน้อยเกินไป ให้ความรู้สึกสบายตาแม้จะใช้งานเป็นเวลานาน
หน้าจอ IPS LCD แสดงผลความละเอียดระดับ FHD+ 2400x1080px อัตราส่วนหน้าจอ 20:9 สามารถเพิ่มอุณหภูมิสีของหน้าจอ หรือลดแสงสีฟ้าของหน้าจอได้ด้วย กรณีใช้มือถือนานๆแล้วรู้สืกแสบตาถือว่าตอบโจทย์คนติดมือถือ สามารถปรับสีหน้าจอได้ 2 โหมด ได้แก่ Vivid mode และ Gentle mode
กล้องหน้าคู่ แบบเจาะรูบนหน้าจอ เลนส์หลักมีความละเอียด 16 MP ใช้เซ็นเซอร์ของ Sony IMX471 เลนส์ Ultra Wide-angle มีความละเอียด 8MP มุมมองกว้างถึง 105 ° รองรับโหมด HDR ให้ภาพสวยคมชัดในที่แสงซับซ้อนทั้งแดดจัดและเงาจัดๆ รองรับโหมด super portrait Nightscape เซลฟี่สวยแม้ในที่มืด ใครชอบถ่ายรูปร้านอาหารการคืนน่าจะถูกใจ
กล้องหลังความละเอียดภาพนิ่งสูงสุด 64 ล้านพิกเซล
- กล้องหลักความละเอียด 64 MP ค่ารูรับแสง F/1.8 เก็บรายละเอียดได้ดีแม้ในที่แสงน้อย เซ็นเซอร์ระดับเรือธง Samsung GW1 ขนาดเซ็นเซอร์ 1/1.72 “ ความกว้างเซ็นเซอร์ 1.6μm
- Ultra wide-angle lens ความละเอียด 8 MP ค่ารูรับแสง f/2.3 เก็บภาพมุมกว้างได้ 119°
- Telephoto lens ความละเอียด 12MP ค่ารูรับแสง f/2.5 ซูมแบบไฮบริดได้ 20 เท่า
- Macro lens ระยะโฟกัส 4 เซ็นติเมตร ค่ารูรับแสง f/2.4
