เมื่อพูดถึงหูฟังไร้สายแถมเสียงดีจะต้องไม่พลาดกับ Samsung Galaxy Buds2 ซึ่งรุ่นนี้ก็ได้รับการพัฒนามาจากรุ่นแรกกับรุ่น Plus ทั้งดีไซน์ คุณภาพเสียง และฟังก์ชันต่างๆ ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันมากขึ้น แน่นอนว่าวันนี้เราจะมารีวิว Galaxy Buds2 ที่มีขนาดเล็กกะทัดรัด น้ำหนักเบา พกพาสะดวก แถมยังใส่สบาย ไม่เจ็บหู ตัดเสียงรบกวนได้ แบตอึดทน ใช้งานได้นานกว่าเดิม
Unbox
เริ่มจากตัวกล่องเป็นสีขาว สไตล์มินิมอล มาพร้อมกับชื่อรุ่นและตัวอย่างของหูฟัง Galaxy Buds2 อยู่ด้านหน้ากล่อง ส่วนด้านหลังกล่องมีคำอธิบายฟังก์ชันที่น่าสนใจอีกด้วย
อุปกรณ์ภายในกล่อง
- หูฟัง Galaxy Buds2
- เคสชาร์จ
- สายชาร์จ Type-C
- ปลอกหูฟังซิลิโคน (มี 3 ขนาด)
- คู่มือการใช้งาน
Samsung Galaxy Buds2
เรื่องดีไซน์ของตัวหูฟังรุ่นนี้เป็นแบบ In-Ear น้ำหนักเบาเพียงข้างละ 5 กรัม มีให้เลือก 3 สี คือ สี Graphite(ดำ), Olive(โอลีฟ) และ Lavender(ม่วง) ซึ่งสีที่ได้นำมารีวิวเป็นสี Olive พร้อมกับจุกหูฟัง 3 ขนาด เพื่อให้สวมใส่กระชับพอดี ไม่หลวมจนเกินไป ส่วนเคสชาร์จเป็นแบบทรงสี่เหลี่ยมสีขาว พื้นผิวสัมผัสที่มันเงา มีชื่อแบรนด์อยู่ด้านบน ถัดลงมาคือไฟสถานะ พอร์ตชาร์จเป็นแบบ Type-C อยู่ด้านหลัง และด้านในก็จะเป็นสีที่เหมือนกับตัวหูฟัง
รองรับการชาร์จแบบไร้สาย Wireless Charge
มีระบบตัดเสียงรบกวน ANC ทำให้เสียงรบกวนภายนอกลดลง เสียงคมชัดทั้งการฟังเพลงและคุยโทรศัพท์ผ่านลำโพงไดนามิกแบบ 2 ทิศทาง ไมโครโฟน 3 ตัว และหน่วยตรวจจับเสียงพูดในตัว ใช้งานได้นานสูงสุด 29 ชั่วโมง(เมื่อปิดโหมด ANC) และควบคุมการใช้งานด้วยการสัมผัสที่ตัวหูฟัง รองรับการชาร์จแบบไร้สาย Wireless Charge อีกด้วย พร้อมการเชื่อมต่อและทำงานร่วมกับสมาร์ทโฟนและสมาร์ทวอทช์ผ่านแอปพลิเคชันที่ชื่อว่า Galaxy Wearable ซึ่งสามารถตั้งค่าเสียง การควบคุมสัมผัส และฟีเจอร์ต่างๆ ในแอปนี้ได้เลย รวมถึง Auto Switch สามารถสลับการเชื่อมต่ออัตโนมัติ ระหว่างอุปกรณ์ Galaxy ได้ง่ายกว่าเดิมและรวดเร็วขึ้น
เมื่อดาวน์โหลดแอป Galaxy Wearable เรียบร้อยแล้ว จะเห็นหน้าแอปบอกสถานะแบตเตอรี่ สามารถเลือกโหมดตัดเสียงรบกวน หรือโหมดเสียงรอบข้าง อีกทั้งสามารถตั้งค่าควบคุมการสัมผัส ปรับแต่งตั้งค่าหูฟัง ซึ่งมีระบบเสียง EQ การอ่านข้อความแจ้งเตือนด้วยเสียง การทดสอบความกระชับของหูฟังที่เหมาะสม และโหมดเกมมิ่ง สำหรับเล่นเกม
ฟีเจอร์การทดสอบความพอดีของหูฟัง
วิธีการใช้งานครั้งแรก
- การเชื่อมต่อ : เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตได้ง่ายๆ เพียงเปิดฝาเคสชาร์จและนำหูฟังออกมา จากนั้นเชื่อมต่อผ่านบลูทูธด้วยสมาร์ทโฟน/แท็บเล็ต เพียงเท่านี้ก็สามารถใช้งานได้ทันที
- การตั้งค่าหูฟัง : ดาวน์โหลดแอป Galaxy Wearable และ Galaxy Plugin เพื่อใช้งานร่วมกัน จากนั้นก็สามารถปรับแต่งตั้งค่าต่างๆ ที่ต้องการ
- การควบคุม : ตั้งค่าการสัมผัสเพื่อสั่งงานหูฟังได้ที่แอป Galaxy Wearable
แตะ 1 ครั้ง – เล่น หรือ พักเพลง
แตะ 2 ครั้ง – เล่นเพลงถัดไป , รับสาย/วางสาย
แตะ 3 ครั้ง – เล่นเพลงก่อนหน้า
แตะค้าง – สลับการควบคุมเสียงรบกวน - ข้อมูลเพิ่มเติม
- สี : Graphite, Olive, Lavender
- ขนาดหูฟัง : 17.0 x 20.9 x 21.1 มม.
- ขนาดเคสชาร์จ : 50 x 50.2 x 27.8 มม.
- น้ำหนัก : ข้างละ 5 กรัม (หูฟัง)
- ความจุแบตเตอรี่ : 61mAh (หูฟัง) , 472mAh (เคสชาร์จ)
- เวลาในการใช้งาน : ใช้ได้นานสูงสุด 29 ชม. เมื่อใช้ร่วมกับเคสชาร์จไฟและปิดโหมด ANC
- ลำโพง : ไดนามิก 2 ทิศทาง, Woofer & Tweeter,7mm Speaker
- ไมโครโฟน : ไมโครโฟน 3 ตัว (2 outer + 1 inner) และหน่วยตรวจจับเสียงพูดในตัว
- เซนเซอร์ : Accelerometer, Gyro, Proximity, Hall, Touch, VPU(Voice Pickup Unit)
- ระบบตัดเสียงรบกวน(ANC) : มี
- มาตราฐานกันน้ำ : IPX2
- การเชื่อมต่อ : Bluetooth 5.2
- ระบบปฏิบัติการ : Android 7.0 ขึ้นไป และ iOS 10 ขึ้นไป
จบไปแล้วกับการรีวิว Samsung Galaxy Buds2 ใช้งานง่ายทั้งตัวหูฟังและแอปพลิเคชัน เสียงคมชัด ตัดเสียงรบกวนได้ ไม่ว่าจะฟังเพลงหรือคุยโทรศัพท์ หากเปิดโหมด ANC จะไม่ค่อยได้ยินเสียงรบกวนภายนอกเลย อีกทั้งแอปพลิเคชันก็สามารถปรับแต่งได้หลากหลายรูปแบบ ตอบโจทย์การใช้งานทั่วไป รวมถึงรูปทรงของหูฟังที่มีขนาดเล็กและน้ำหนักเบา ใส่สบาย
ราคา : 3,299 บาท
ลิงก์การสั่งซื้อ :
ความคุ้มค่า : สวมใส่สบาย ไม่ปวดหู เสียงคมชัด ตัดเสียงรบกวนได้ดี สามารถควบคุมการใช้งานผ่านสมาร์ทโฟน และ Galaxy Watch
การตอบสนอง : ไม่ได้กันน้ำ ควรใช้กับสมาร์ทโฟน/แท็บเล็ต Samsung Galaxy หรือระบบ Android บางรุ่น เพื่อประสิทธิภาพที่ดี และ Auto Switch มีให้ใช้งานเฉพาะในสมาร์ทโฟนกับแท็บเล็ต Samsung Galaxy สำหรับระบบ iOS ยังไม่รองรับแอปพลิเคชัน Galaxy Wearable เท่ากับว่ายังไม่สามารถใช้ฟีเจอร์ในแอปนี้ได้
การรับประกัน : 1 ปี