โอโห้รีวิว! เราจะมาเปิดกล่องรีวิวสุดยอดนวัตกรรมที่ให้มากกว่าการเป็นสมาร์ทโฟนใน Vivo X50 Pro 5G ที่ผสานเทคโนโลยีกันสั่น Gimbal ให้ภาพที่ถ่ายออกมาชัดเจนมากยิ่งขึ้น จะเป็นอย่างไรเรามาดูกันค่ะ
อุปกรณ์ภายในกล่อง
ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่จะได้มาในกล่องของ Vivo X50 Pro 5G นะคะ
- ตัวเครื่อง Vivo X50 Pro 5G สี Alpha Gray
- Adapter หัวชาร์จไฟแบบ Super Fast Charging สามารถชาร์ทไฟได้ถึง 33W
- สายชาร์ทเเบบ USB-C
- หูฟังเเบบ in-Ear Type-C
- เคสซิลิโคลนเเบบใสนิ่ม
- ฟิมล์กันรอยติดมากับตัวเครื่อง
ความรู้สึกแรกกับตัวเครื่อง
ตัวเครื่อง Vivo X50 Pro 5G ไม่หนักไม่เบากำลังดี สามารถถือมือเดียวเป็นเวลานานๆได้ ค่อนข้างจับถนัดมือเลยทีเดียว ถึงแม้ฝาหลังจะด้านแต่ก็ไม่ได้ลื่นหลุดมือ ดีไซน์และสีสันให้ความรู้สึกทันสมัยหรูหราเล่นไม่เบื่อ
ด้านหน้าของตัวเครื่อง
ด้านหน้าของตัวเครื่อง Vivo X50 Pro 5G จะมี หน้าจอขนาด 6.56″ แบบ Amoled FHD+ จอขอบโค้งถึง 55 องศา สุดขอบตัวเครื่อง พร้อม Refresh Rate 90 Hz, Touch Sampling Rate 180 Hz และสามารถเเบ่งจอในการเล่นเเอปต่างๆได้ จอบนเล่นเฟสจอล่างก็ดู Youtube ไป ก็สามารถทำได้อย่างสบายๆ
กล้องหน้า
กล้องหน้า ความชัดระดับ 32MP f/2.45 ถ่ายภาพออกมาได้คมชัดมากๆ สกินโทนยังคงขาวใส แม้ไม่ได้เปิดโหมดบิ้วตี้
เมื่อเปิด HDR ก็ยังสามารถเก็บสภาวะย้อนแสงได้ดี ท้องฟ้าเป็นท้องฟ้า ก้อนเมฆเป็นก้อนเมฆ ในเรื่องส่วนของ โหมด Portrait หน้าชัดหลังเบลอก็ทำได้ดีในระดับหนึ่ง
Super Night Mode มีการดึงแสงสีขาว โดยที่ไม่ลดสีสันลง ถ่ายงานไหนหน้าก็ไม่มืด
ด้านข้างขวาของตัวเครื่อง
มีปุ่ม Power ที่วางตำแหน่งให้อยู่พอดีทั้งการใช้นิ้วหัวแม่มือสำหรับคนถนัดขวา และนิ้วกลางสำหรับคนถนัดซ้าย พร้อมปุ่มปรับระดับเสียงที่อยู่เหนือขึ้นไป
ด้านหลังของตัวเครื่อง
ด้านหน้าไปแล้ว มาดูด้านหลังของตัวเครื่องกันบ้างนะคะ ด้านหลังเป็นกระจกผิวสัมผัสด้าน เคลือบสี 2 ชั้น สามารถป้องกันรอยนิ้วมือได้ดี นอกจากนั้นยังมีกล้องหลัง 3 ตัว พร้อม AI Camera และช่องไฟแฟลช
กล้องหลัง
โมดูลกล้องขนาดใหญ่ เป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าวางแนวตั้ง ยกขึ้นเพียง 2 – 3 มิลลิเมตร จากฝาหลังของเครื่อง
ซึ่งมีกล้อง 4 ตัวด้วยกัน เลนส์หลัก IMX598 ความละเอียดอยู่ที่ 48MP f/1.6 ผสานพลัง Gimbal ทำให้การถ่ายภาพ และถ่ายวิดีโอ ออกมานั้นนิ่งชัดสวย มาพร้อมกับอีก 3 เลนส์ที่เพิ่มลูกเล่นให้ Vivo X50 Pro 5G มากขึ้น
เลนส์ Portrait 50mm ความละเอียด 13MP f/2.5
เลนส์ Ultrawide 120 องศา ความละเอียด 8MP f/3.4
เลนส์ Macro 2.5cm ความละเอียด 8MP f/2.2
มาพร้อมกับ โหมดถ่ายภาพที่หลากหลาย รวมถึงโหมด Hyper zoom 60X
ด้านบนของตัวเครื่อง
ขอบด้านบนติดตั้งไมโครโฟนตัวที่ 2 สำหรับตัดเสียงรบกวนรอบข้าง และมีข้อความ 5G Professional Photography ที่สะท้อนแสงแบบโฮโลแกรม ย้ำชัดว่า Vivo X50 Pro 5G มีคุณสมบัติการเชื่อมต่อเครือข่ายแห่งอนาคตและการถ่ายภาพในระดับมืออาชีพ
ด้านล่างของตัวเครื่อง
ด้านหน้าด้านหลังผ่านไป เรามาดูด้านล่างของตัวเครื่องกันบ้างนะคะ ด้านล่างของตัวเครื่อง อย่างเเรกจากขวามาซ้ายมือคือ ลำโพง ช่องถัดมาคือ ช่องเสียบ USB -C พร้อมไมค์สนทนา และช่องใส่ซิม แต่ที่น่าเสียดายมากๆ สำหรับ Vivo X50 Pro 5G คือไม่รองรับ Micro SD Card และไม่มีช่องเสียบหูฟัง 3.5 mm.
ช่องใส่ซิมการ์ด
ช่องใส่ซิมแบบ Nano-Sim รองรับ 2 ซิม และยังรองรับสัญญาณตั้งแต่ 2G จนถึง 5G ให้ผู้ใช้เชื่อมต่อออนไลน์ได้เร็วเป็นพิเศษด้วยความหน่วงต่ำเรียกได้ว่าเร็วแรงทันใจแน่นอน
ระบบปฎิบัติการ
ชิปเซ็ต Qualcomm® Snapdragon™ 765G ระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 10.5 (บนพื้นฐาน Android 10) ความจุ 256GB + RAM 8GB มาพร้อมกับแบตเตอรี่ 4315mAh ที่สามารถชาร์จได้เร็วถึง 33W
TestGame เเละ ฟังก์ชั่น Ultra Game Mode
นอกจากโดดเด่นเรื่องกล้องแล้ว ในเรื่องการเล่นเกมก็ลื่นไหลมากเช่นกัน จากการที่ได้ลองเล่นในหลายๆเกม ปรับกันเเบบสุดๆ ก็ไม่มีสะดุดกระตุกอะไร ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่คุ้มค่าคุ้มราคาสุดๆ เเละอีกหนึ่งที่น่าสนใจคือฟังก์ชั่น Ultra Game Mode ที่เอาไว้ช่วยในการเล่นเกมให้ได้ดีมากยิ่งขึ้น สามารถปิดการเเจ้งเตือนการโทรได้ในระหว่างการเล่นเกมไม่ให้รบกวนตอนที่เวลาเราเล่นเกมได้ พร้อมทีเด็ดโหมดเครื่องเปลี่ยนเสียง สามารถเปลี่ยนเสียงขณะเล่นเกมได้ถึง 5 เสียงเอาไว้แกล้งคนในเกม แกล้งเพื่อนก็เจ๋ง
ระบบเสียง
จุดขายของ Vivo X50 Pro 5G มาพร้อมกับชิปเสียง AK4377A เพลิดเพลินกับคุณภาพเสียง Hi-Fi แม้ว่าลำโพง Speaker จะเป็นแบบ Mono แต่ยังให้เปิดดังแค่ไหนเสียงก็ไม่แตก
ด้วยคุณสัมบัติที่เหนือชั้นนี้ ทำให้ Vivo X50 Pro 5G ได้คะเเนนจาก AnTuTu BenchMark ไปสูงถึง 333331 คะเเนน เรียกได้ว่าเป็นเครื่องที่มีประสิทธิภาพระดับเรือธงกันเลยทีเดียวนะคะ
สรุปสเปค Vivo X50 Pro 5G
- หน้าจอมีขนาด 6.56” 3D Curved ความละเอียดหน้าจอ FHD + (2376 × 1080) ชนิดจอแบบ AMOLED
- CPU ที่ใช้ Qualcomm Snapdragon 765
- GPU ที่ใช้ Adreno 620
- RAM 8 GB ชนิด LPDDR4X / ROM 256 GB ชนิด UFS 2.1
- กล้องหน้า ความละเอียด 32MP (f/2.45)
- กล้องหลังหลัก ความละเอียดอยู่ที่ 48MP (f/1.6) รองรับระบบกันสั่นแบบ Gimbal OIS
- กล้องหลังอีก 3 ตัว
- เลนส์ Portrait 50mm ความละเอียด 13MP (f/2.5)
- เลนส์ Ultrawide 120 องศา ความละเอียด 8MP (f/3.4)
- เลนส์ Macro 2.5cm ความละเอียด 8MP (f/2.2)
- รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด Nano-Sim รองรับ 5G (n41, n78)
- รองรับเซ็นเซอร์การสแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ (On-Screen Fingerprint)
- รองรับการปลดล็อกตัวเครื่องด้วยการสแกนใบหน้า (Face Recognition)
- รองรับ WiFi6/Bluetooth 5.1/NFC
- ระบบปฎิบัติการ Android 10 + FunTouch OS 10.5
- แบตเตอรี่ขนาด 4315 mAh พร้อมรองรับระบบชาร์จเร็ว 33W
- มิติตัวเครื่อง 158.46 x 72.8 x 8.04 มม.
- น้ำหนัก 181.5 กรัม
- สี Alpha Gray
- ราคา 24,999 บาท
ก็จบไปเเล้วนะคะสำหรับการรีวิว เรียกได้ว่า Vivo X50 Pro 5G เป็นสมาร์ทโฟนสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายรูป ถ่ายวิดิโอ เป็นหลัก และยังเหมาะกับการใช้งานทั่วไปด้วยประสิทธิภาพที่ล้นหลามอีกด้วย ถ้าใครสนใจก็สามารถไปตามซื้อตามหากันได้ที่ค่ายมือถือต่างๆเช่น AIS TrueMove H และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ