HUAWEI P40 Series เพิ่งจะเปิดตัวในประเทศไทยเมื่อวันที่ 15 เมษายน 2563 ซึ่งมีการเปิดตัวมือถือทั้งหมด 2 รุ่น ได้แก่ Huawei P40 และ P40 Pro โดยรายละเอียดมีดังนี้
หน้าจอ
Huawei P40 Pro มีการใช้หน้าจอเป็นแบบ Quad-Curve Overflow Display ซึ่งเป็นขอบโค้งทั้ง 4 ด้าน ดูสวยแปลกตาและยังมีขอบจอที่บางเฉียบ
สเปค
ทั้งสองรุ่นใช้ชิปประมวลผล Kirin 990 5G ซึ่งแน่นอนว่ารองรับการใช้งาน 5G ในไทย สเปค RAM 8GB กับหน่วยความจำ ROM แบบ UFS 3.0 ในรุ่นพื้นฐานขนาด 128GB และรุ่น Pro 256GB
ดีไซน์
Huawei P40 Pro มาพร้อมกับดีไซน์แบบพรีเมี่ยมเนื่องจากฝาหลังมีการใช้วัสดุ Nano-Tech Ceramic ที่ทนต่อแรงขีดข่วนได้ดีและมีความทนทานสูง
กล้องหน้า
ทั้งสองรุ่นมีกล้องหน้าตัวหลักเหมือนกันคือเป็นกล้อง 32 ล้านพิกเซล แต่รุ่น Pro จะเพิ่ม IR Depth/Gesture และ Ambient & Proximity Sensor สำหรับระบบปลดล็อกด้วยใบหน้า
กล้องหลัง
- Huawei P40 มีกล้องหลังทั้งหมด 3 ตัว ประกอบไปด้วย
- กล้องหลัก Ultra Vision Wide 50MP (f/1.9)
- กล้อง Telephoto 3x Optical 8MP (f/2.4), OIS
- กล้อง Ultra Wide 16MP (f/2.2) และเซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิสี
- Huawei P40 Pro มีกล้องหลังทั้งหมด 4 ตัว ประกอบไปด้วย
- กล้อง Ultra Vision Wide 50MP (f/1.9), OIS
- กล้อง Ultra Wide Cine 40MP (f/1.8)
- กล้องซูม Optical 5x 12MP (f/3.4), OIS
- กล้อง 3 มิติ ToF และเซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิสี
- ฟีเจอร์การถ่ายรูป Golden Snap
- AI Scene Recognition คำนวณการเคลื่อนไหวและเลือกภาพในช็อตที่สวยงามที่สุด
- AI Remove Passersby ลบบุคคลที่ไม่ต้องการออกจากภาพได้เนียนกริบ
- AI Remove Reflection ลบการสะท้อนของวัตถุต่างๆเพื่อให้ได้ภาพที่ชัดเจน
กล้องถ่ายวิดีโอ
Huawei P40 Pro สามารถถ่ายวิดีโอระดับ 4K ได้แบบชัดเจนแม้จะมีแสงน้อยก็ตาม นอกจากนี้ยังสามารถถ่ายวิดีโอจากกล้องพร้อมกัน 2 ตัวด้วยโหมด Dual-View Video ทำให้เราสามารถบันทึกวิดีโอด้วยกล้อง Ultra wide พร้อมกับกล้อง Telephoto โดยไม่ต้องกดเปลี่ยนระยะ
แบตเตอรี่
P40 Pro มีแบตเตอรี่ 4200mAh รองรับ SuperCharge 40W และการชาร์จแบบไร้สาย ส่วน P40 ให้มา 3800mAh รองรับชาร์จไว SuperCharge แค่ 22.5W
นอกจากนี้ยังมีระบบปฏิบัติการ EMUI 10.1หรือก็คือฟีเจอร์ Multi Window ที่ทำให้เปิดได้ 2 แอปพร้อมกันในหน้าจอเดียว และใช้ Huawei Mobile Services แทน Google Mobile Services
HUAWEI P40 รุ่นความจุ 8GB / 128GB ราคา 22,990 บาท
หน้าจอ : Punch Hole ไม่โค้ง 6.1 นิ้ว ความละเอียด 2340 x 1080 พิกเซล
ชิปประมวลผล : Kirin 990 5G
RAM : 8GB
ROM : 128GB เพิ่ม NM Card ได้
กล้องหลัง 3 เลนส์
– กล้องหลัก Ultra Vision Wide 50MP (f/1.9)
– กล้อง Telephoto 3x Optical 8MP (f/2.4), OIS
– กล้อง Ultra Wide 16MP (f/2.2) และเซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิสี
กล้องหน้า 2 เลนส์ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล + Depth
แบตเตอรี่ : 3800mAh รองรับ Fast Charge 22.5W
HUAWEI P40 Pro รุ่นความจุ 8GB / 256GB ราคา 31,990 บาท
หน้าจอ : Punch Hole แบบโค้ง 6.58 นิ้ว ความละเอียด2640 x 1080 พิกเซล
ชิปประมวลผล : Kirin 990 5G
RAM : 8GB
ROM : 128/256GB เพิ่ม NM Card ได้
กล้องหลัง 4 เลนส์
– กล้อง Ultra Vision Wide 50MP (f/1.9), OIS
– กล้อง Ultra Wide Cine 40MP (f/1.8)
– กล้องซูม Optical 5x 12MP (f/3.4), OIS
– กล้อง 3 มิติ ToF และเซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิสี
กล้องหน้า 2 เลนส์ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล + ToF + เซ็นเซอร์อินฟราเรด (Face Unlock)
แบตเตอรี่ : 4200mAh รองรับ Fast Charge 40W และ Wireless Charge 27W
โดยทั้งสองรุ่นเริ่มเปิดจองในไทยวันที่ 15-30 เมษายนนี้ เมื่อจองรุ่น P40 Pro ซึ่งราคาอยู่ที่ 31,990 บาท จะได้รับของแถมฟรีมูลค่ารวม 20,870 บาท ได้แก่ Huawei Freebuds 3, Huawei Exclusive Service และ Huawei Wireless Car Charger สำหรับ P40 เปิดราคาอยู่ที่ 22,990 บาท จะได้รับของแถมฟรีมูลค่ารวม 19,080 บาท ได้แก่ Huawei Freebuds 3 และ Huawei Exclusive Service
