ในวันนี้ OnePlus ได้เปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ในตระกูล OnePlus 8 Series อย่างเป็นทางการแล้ว โดยมีด้วยกันทั้งหมด 2 รุ่น ได้แก่ OnePlus 8 และ OnePlus 8 Pro
สมาร์ทโฟนรุ่นนี้มีหน้าจอแบบ OLED ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด QHD+ Refresh Rate 120 Hz พร้อม Touch Sampling Rate 240 Hz นอกกจากนี้ยังมีชิป MEMC (Motion Estimation and Motion Compensation) ที่ทำให้ภาพลื่นไหลมากขึ้นและยังสามารถอัพสเกลวิดีโอที่มีเฟรมเรท 24fps เป็น 120fps ได้ด้วย
OnePlus 8 Pro ได้คะแนนประสิทธิภาพหน้าจอจากเว็บไซต์ DisplayMate ระดับ A+ เนื่องจากมีการแสดงผลแบบ HDR10+, การแสดงผลสีแบบ 10-bit, เทคโนโลยี HDR Boost และเร่งความสว่างได้สูงสุดถึง 1300 nits
ในส่วนของดีไซน์ตัวเครื่องทั้ง OnePlus 8 และ 8 Pro นั้น ด้านหลังทำจากกระจกโค้ง แต่มีพื้นผิวแบบ Matte Frost ซึ่งให้ความรู้สึกที่หรูหราแถมยังช่วยป้องกันรอยนิ้วมือ
– OnePlus 8 มี 3 สีได้แก่ Onyx Black, Glacial Green และ Interstellar Glow
– OnePlus 8 Pro มี 3 สีได้แก่ Onyx Black, Glacial Green และ Ultramarine Blue
OnePlus 8 Pro มีกล้องหลังถึง 4 ตัว
– กล้องหลักเซ็นเซอร์ IMX689 ความละเอียด 48MP, ระบบกันสั่น OIS
– กล้อง Ultra Wide เซ็นเซอร์ IMX586 ความละเอียด 48MP
– กล้อง Telephoto 3X ซูมดิจิตอลสูงสุด 30x, ระบบกันสั่น OIS
– กล้อง Color Filter
OnePlus 8 Pro มีระบบชาร์จไว Warp Charge 30T ที่รองรับการชาร์จในระดับ 30W ส่วน Warp Charge 30 Wireless ระบบชาร์จไร้สายก็รองรับการชาร์จในระดับ 30W เช่นเดียวกัน โดยสามารถชาร์จแบตเตอรี่จาก 0% – 50% ได้ภายในเวลาแค่ 30 นาที
สเปคภายในของ OnePlus 8 จะเหมือนกับ OnePlus 8 Pro เกือบทั้งหมด ยกเว้นแบตเตอรี่, รองรับแค่ Warp Charge 30T และเป็นพอร์ต USB Type-C 3.1
OnePlus 8
ชิปเซ็ต : Qualcomm Sanpdragon 865
แรม : 8GB/12GB (LPDDR4X)
ความจุ : 128GB/256GB (UFS3.0)
ระบบปฏิบัติการ : OxygenOS อ้างอิงจาก Android 10, Dark Mode 2.0
หน้าจอ : Fluid AMOLED ขนาด 6.55 นิ้ว ความละเอียด 2400 X 1080 พิกเซล, รองรับ Refresh Rate ที่ 90 Hz, กระจก Gorilla Glass, รองรับ HDR10+
กล้องหน้า : 16 ล้านพิกเซล (เซนเซอร์ Sony IMX471, F/2.0)
กล้องหลัง :
– 48MP กล้องหลัก เซ็นเซอร์ Sony IMX586, f/1.75, OIS, EIS, PDAF
– 16MP เลนส์ Ultra Wide Angle, f/2.2
– 2MP เลนส์ macro, f/2.4
การบันทึกวิดีโอ :
– 4K UHD ที่ 30/60 เฟรมต่อวินาที, 1080p ที่ 30/60 เฟรมต่อวินาที
– สโลโมชัน 720p ที่ 480 เฟรมต่อวินาที, สโลโมชัน 1080p ที่ 240 เฟรมต่อวินาที
ฟีเจอร์กล้อง : HDR, RAW, Cine Mode, Nightscape, Super Macro, Pro Mode
สี : Onyx Black (มันวาว), Glacial Green (ด้าน), Interstellar Glow (มันวาว)
ขนาดตัวเครื่อง : 160.2 X 72.9 X 8.0 มม.
น้ำหนัก : 180 กรัม
การเชื่อมต่อ : 5G, Bluetooth 5.1 (รองรับโค้ดเสียง aptX, aptX HD, LDAC, AAC), NFC, Wi-Fi 6 (2.4 GHz และ 5 GHz), USB-C และ USB 3.1 Gen 1
เซนเซอร์ : เซนเซอร์สแกนนิ้วมือบนหน้าจอ
ลำโพงสเตอริโอ : ระบบเสียง Dolby Atmos
แบตเตอรี : 4,300 mAh, รองรับ Warp Charge 30T ที่ 30 W
OnePlus 8 Pro
ชิปเซ็ต : Qualcomm Sanpdragon 865
แรม : 8GB/12GB (LPDDR5)
ความจุ : 128GB/256GB (UFS3.0)
ระบบปฏิบัติการ : OxygenOS อ้างอิงจาก Android 10, Dark Mode 2.0
หน้าจอ : Fluid AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด 3168 X 1440 พิกเซล, รองรับ Refresh Rate ที่ 90 Hz, กระจก Gorilla Glass, รองรับ HDR10+
กล้องหน้า : 16 ล้านพิกเซล (เซนเซอร์ Sony IMX471, F/2.4)
กล้องหลัง :
– 48MP กล้องหลัก เซ็นเซอร์ Sony IMX689, f/1.78, OIS, EIS, PDAF
– 48MP เลนส์ Ultra Wide Angle, f/2.2
– 8MP เลนส์ Tele Optical 3x, f/2.4, OIS
– 5MP เลนส์ Color Filter, f/2.4
ฟีเจอร์กล้อง : HDR, RAW, Cine Mode, Nightscape, Super Macro, Pro Mode, Audio Zoom, Color Filter
สี : Onyx Black (มันวาว), Glacial Green (ด้าน), Ultramarine Blue (ด้าน)
ขนาดตัวเครื่อง : 165.3 X 74.4 X 8.5 มม.
น้ำหนัก : 199 กรัม
การเชื่อมต่อ : 5G, Bluetooth 5.1 (รองรับโค้ดเสียง aptX, aptX HD, LDAC, AAC), NFC, Wi-Fi 6 (2.4 GHz และ 5 GHz), USB-C และ USB 3.1 Gen 1
เซนเซอร์ : เซนเซอร์สแกนนิ้วมือบนหน้าจอ
กันน้ำ : มาตรฐานการกันน้ำและฝุ่นระดับ IP68
ลำโพงสเตอริโอ : ระบบเสียง Dolby Atmos
แบตเตอรี : 4,510 mAh, รองรับ Warp Charge 30T ที่ 30 W, รองรับชาร์จไร้สายที่ 30 W, แบ่งปันการชาร์จไร้สายที่ 3 W
OnePlus 8 รุ่น 8GB+128GB จะวางจำหน่ายในราคา 699 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 22,800 บาท และ 12GB+256GB ราคา 799 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 26,100 บาท โดยมี 3 สีได้แก่ Onyx Black, Glacial Green และ Interstellar Glow
OnePlus 8 Pro รุ่น 8GB+128GB จะวางจำหน่ายในราคา 899 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 29,300 บาท และ 12GB+256GB ราคา 999 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 32,600 บาท โดยมี 3 สีได้แก่ Onyx Black, Glacial Green และ Ultramarine Blue ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลการวางจำหน่ายในโซนเอเชีย